วัดเขาบางทราย วัดที่อยู่คนกับชาวชลบุรีมานานหลายปี

วัดเขาบางทราย วัดที่อยู่คนกับชาวชลบุรีมานานหลายปี

วัดเขาบางทราย

          เมื่อมาท่องเที่ยวที่จังหวัดชลบุรี นอกจากจะมาท่องเล่นน้ำทะเล ดำน้ำดูปะการังแล้วนั้น ในจังหวัดชลบุรียังมีวัดวาอารามที่สวยงาม และมีความศักดิ์สิทธิ์น่ากราบไหว้น่ามาสักการะหลายแห่งเลยนะครับ  และวันนี้ผมขอแนะนำ วัดเขาบางทราย  เป็นวัดที่อยู่คนกับชาวชลบุรีมานานหลายปีแล้วนะครับ 

วัดเขาบางทราย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเขาพระบาทบางทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลบางทราย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ตัววัดอยู่บริเวณเชิงเขาพระบาทบางทราย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังนั้นศิลปะต่างๆ ภายในวัดจึงเต็มไปด้วยความเก่าแก่ มีจุดสำคัญที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาหลายจุด อย่างเช่น มณฑปพระพุทธบาท เจดีย์ วิหารชั้นล่าง วิหารปัญจวคีย์ ตึกพำนักเจริญธรรมภาวนาที่วิเวกท้ายเขา และบ่อน้ำ เป็นต้น จุดเด่นคือมณฑปที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ซึ่งภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์เอาไว้ มณฑปตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีสีขาวสะอาดตา บริเวณมณฑปพระพุทธบาทนั้น มีลานไว้สำหรับชมวิวด้วย เราจะสามารถชมวิวทิวทัศน์บริเวณของชุมชนที่ขนาบไปกับสะพานชลมารควิถี สวยงามแปลกตา บริเวณวัดมีต้นไม้ใหญ่อยู่มากทำให้เกิดความรู้สึกสงบ ร่มเย็น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

เมื่อเข้าสู่วัดบางทรายแล้ว ด้านล่างจะมีเจดีย์และอุโบสถตั้งอยู่ ในส่วนของมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทนั้น สามารถขึ้นไปสองทางคือทางรถยนต์ เป็นทางลาดยาง ความชันไม่มากนัก ระยะทางประมาณ 500 เมตร หรือหากจะใช้วิธีเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ค่อนข้างจะหลายขั้นอยู่สักหน่อย อาจต้องใช้แรงและเวลา โดยบันไดทางขึ้นจะอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงเรียนกีฬา แต่เมื่อขึ้นไปแล้วได้กราบสักการะรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์พร้อมด้วยจุดชมวิวสวยๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ด้านบนอากาศโล่งมีลมเย็นพัดผ่าน 

พระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงผนวชอยู่ ก็ได้เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์นี้เช่นเดียวกัน และทรงเสด็จกลับมาอีกครั้งเพื่อเยี่ยมเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2447

กิจกรรมที่วัดเขาบางทราย

  • กราบสักการะรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์
  • ไหว้พระขอพร
  • ชมวิว

สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

  • ห้องสุขา

ที่จอดรถ

  • มีลานจอดรถ

ร้านอาหาร

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงกับวัดเขาบางทราย

    • เตี๋ยวโฟในสวน
    • The Fire Bear
    • จรินทร์ ข้าวต้มปลา
    • ป้าแจ๊ดก๋วยเตี๋ยวเครื่องในบางทราย

 

  • ขนมกุ๊ยช่ายเจ๊ผ่อง

 

 

สถานท่องเที่ยวใกล้เคียงวัดเขาบางทราย

  • หาดบางแสน
  • แหลมแท่น
  • ตลาดโบราณอ่างศิลา
  • วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จือ)
  • เขาสามมุก
  • ตลาดหนองมน
  • สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา
  • ตลาดประมงท่าเรือพลี

เวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

ช่วงเวลาท่องเที่ยว

สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ที่ตั้งของวัดเขาบางทราย

ตำบลบางทราย อำเภอเมืองชลบุรี  จังหวัดชลบุรี

ที่พัก

ที่พักบริเวณใกล้เคียงวัดเขาบางทราย ราคาหลักร้อยก็มีอยู่หลายที่ หากใครสนใจจะไปวัดเขาบางทรายเป็นกิจกรรมสุดท้ายของวันก็สามารถหาที่พักบริเวณใกล้เคียงกับวัดเพื่อความสะดวก

  • My bed Chonburi
  • J&Y Lodge Hotel
  • ปาโต้ย เฮาส์
  • โรงแรมเดอะสลีป ชลบุรี

สำหรับการเดินทางนั้น หากไปจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง

  • รถยนต์ส่วนตัว 

 

  • รถโดยสาร 

เหมาะสำหรับ

  • กลุ่มครอบครัว
  • กลุ่มวัยทำงาน
  • กลุ่มนักเรียนนักศึกษา
  • กลุ่มสตรี
  • กลุ่มคู่รัก
  • กลุ่มผู้สูงอายุ

การเดินทาง

  • รถยนต์
  • รถโดยสารประจำทาง
  • มอเตอร์ไซค์

วัดเขาบางทราย วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่มาก ตามประวัติว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้น ระหว่างปี พ.ศ.2249-2275 วัดเขาบางทรายถือเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินิกาย เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่และมีความเจริญรุ่งเรืองมากแล้วก็กลับกลายเป็นวัดร้างเพราะสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด จนกระทั่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้มีพระราชประสงค์ให้บูรณะวัดเขาบางทรายขึ้นมาใหม่ เนื่องด้วยพระองค์ได้มีรับสั่งโปรดเกล้าให้สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าพระยาพระคลัง ที่สมุหกลาโหม ยกทัพไปปราบอั้งยี่ ที่วัดคงคาลัย ตำบลบางทราย อำเภอเมืองฯ หลังจากปราบอั้งยี่ลงได้แล้ว เจ้าพระยาพระคลังได้มีบัญชาให้สถาปนาวัดเขาบางทรายขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2390 

วัดเขาบางทราย ได้รับการบูรณะอีกครั้งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยผู้ทำเนินการบูรณะในครั้งนั้นคือ โดยพระยาวิชิตชลเขต ผู้กำกับราชการเมืองชลบุรีกับพระราชาคณะหลายรูป ในครั้งนั้นได้มีการบูรณะในส่วนของ มณฑปพระพุทธบาท เจดีย์ วิหาร ตึกพำนักเจริญภาวนาและบ่อน้ำ เป็นต้น และที่วัดเขาบางทรายแห่งนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5

เมื่อมาที่วัดเขาบางทราย นี้แล้วเราจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามและสำคัญมาก ทั้งยังได้มีโอกาสเข้ากราบสักการะรอยพระพุทธบาท เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย แถมด้วยจุดชมวิวสวยๆ การเดินทางก็ไม่ได้ลำบากขับรถมาแบบสบายๆ ถึงด้านบนกันได้เลย ที่สำคัญบริเวณวัดนั้นมีความเงียบสงบและเย็นมาก หากต้องการวิวสวยๆ พร้อมความสงบไปเที่ยววัดเขาบางทรายก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

 

3 วัดดังแห่งเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

3-วัดดังแห่งเกาะสีชัง-จังหวัดชลบุรี

3 วัดดังเกาะสีชัง ชลบุรี

ทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือก เพราะการไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวที่ทะเลนั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีมุมที่ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีทะเลที่เป็นสถานที่ที่สวยงามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกของประเทศไทยอย่าง เกาะสีชังชลบุรี ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ถ้าหากคุณไม่รู้จะไปไหน ควรจะไปเที่ยวที่ 3 วัดดังเกาะสีชัง ได้ทั้งทำบุญ และได้เที่ยวพักผ่อนไปพร้อมกัน

3 วัดดังเกาะสีชัง ชลบุรีที่น่าสนใจ 

  1. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
    Cr : เทศบาลเกาะสีชัง

ถ้าหากมีโอกาสได้เดินทางไปที่เกาะสีชังนั้นควรจะต้องไปกราบไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนที่จะเริ่มเที่ยวสถานที่อื่น ซึ่งศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นไม่ได้เป็นวัดตามพระพุทธศาสนาแต่เป็นสำนักทางศาสนาที่ได้จัดสร้างขึ้นจากความศรัทธาของชาวบ้านในอำเภอสีชัง เพื่อให้เจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นได้ปกปักษ์รักษาประชาชนบนเกาะแห่งนี้ อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการค้าขาย ให้มีการค้าที่ดีและรุ่งเรือง เมื่อคุณเดินทางถึงเกาะสีชังแล้วจะต้องมากราบไหว้ โดยจะได้รับธูปจำนวน 15 ดอก โดยการจุดธูปเพียง 1 ครั้งภายในและจะต้องไหว้ตามจุดที่ได้กำหนดไว้ทั้งหมด การมาไหว้ที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นสถานที่แรกนั้นเพื่อช่วยเสริมสิริมงคลก่อนที่จะเริ่มท่องเที่ยวบนเกาะ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้มีการสร้างโดยการผสมศิลปะและวัฒนธรรมของ 2 ชาติเข้าได้กัน คือวัฒนธรรมแบบจีนและแบบไทย จะเห็นได้ว่าเทพเจ้าที่อยู่ในศาลเจ้านั้นจะมีทั้งเทพเจ้าของจีนและของไทย อีกทั้งการตกแต่งจะมีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ตามความเชื่อของคนที่ต้องทำการค้าขาย เนื่องจากในอดีตนั้นอาชีพหลักของคนบนเกาะคือการทำการค้าและส่งออก อีกทั้งยัง

เป็นที่พักของเรือสินค้าต่าง ๆ ด้วย

พิกัดของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ คลิก

  1. วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร
    Cr : OTOP Village

เมื่อได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของเกาะสีชังอย่างศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว สถานที่ต่อไปควรจะเดินทางไปที่วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล นักท่องเที่ยวสามารถขี่รถจักรยานยนต์ไปได้เพียงขับลงมาจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เพียงแค่ 13 เมตรเท่านั้น โดยสถานที่แห่งนี้เป็นวัดพระอารามหลวงซึ่งตั้งอยู่เหนือท่าเรือภานุรังษี เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่ลงจากเรือจะสามารถสังเกตเห็นวัดนี้ได้ทันที ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งเสาโทรเลขตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 หรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากจะเป็นวัดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ประชาชนบนเกาะแล้วยังเป็นสถานที่ทำคุณประโยชน์ด้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้นได้เสด็จมาประทับบนเกาะสีชังแต่ได้ทรงเห็นว่าไกลและไม่สะดวกจึงได้ทำการย้ายมายังที่วัดอัษฎางคนิมิตร ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานส่วนพระองค์แทน ถ้าหากนักท่องเที่ยวได้ทำการศึกษาจะทราบได้ทันทีว่าในอดีตนั้นวัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหารไม่มีโบสถ์ใช้ในการประกอบพิธีกรรมจนมาถึงในช่วงที่รัชกาลที่ 5 ได้แต่งตั้งให้พระครูสิทธิรัตน์ได้มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ จึงได้มีการก่อสร้างโบสถ์จนแล้วเสร็จ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีรอยพระพุทธบาทเพื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรจะไปกราบสักการะสักครั้งเพื่อเป็นสิริมงคล

พิกัดของวัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร

  1. พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิต
    Cr : tourismplatform

สำหรับวัดที่ 3 วัดดังเกาะสีชัง เป็นวัดที่เรียกว่า ใครไปเที่ยวเกาะสีชังชลบุรี นั้นจะต้องเดินทางไปทั้งสักการะและถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน เนื่องจากวัดอัษฎางคนิมิตนั้นตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานของรัชกาลที่ 5 ทำให้ส่วนนี้จะเป็นสถานที่ราชการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมจะเข้าได้ตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00 ถึงเวลา 18.00 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด โดยภายในของวัดนี้จะเป็นสถานที่สำหรับให้พระภิกษุได้ทำการปฏิบัติธรรม เนื่องจากในอดีตนั้นพระสงฆ์ได้ไปปฏิบัติธรรมหรือสวดภาวนาต่าง ๆ ตามใต้ตนไม้ ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงเล็งเห็นว่าเป็นการที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควร จึงโปรดเกล้าให้ทำการสร้างพระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตขึ้นมา โดยเป็นการผสมผสานความเป็นไทยเพิ่มมากขึ้นมากกว่าศาลของเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่มีการผสมศิลปะระหว่างแบบจีนกับแบบไทย ทำให้พระเจดีย์อุโบสถนั้นมีลักษณะความเป็นไทย มีระฆังทองอยู่ด้านบนของพระเจดีย์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา ก่อด้วยอิฐและฉาบปูนสีขาวทั้งหมด ตัวอาคารนั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 6 วา ด้านตะวันตกนั้นมีมุขสี่เหลี่ยม ภายในของพระอุโบสถเป็นโถงรูปวงกลมมีความกว้าง 2 วา  2 ศอก ถ้าหากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินทางไปที่อ่าวอัษฎางค์ ควรจะเดินทางไปเยี่ยมชมและถ่ายรูป นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ที่มีวิวสวยงาม

พิกัดของพระเจดีย์ วัดอัษฎางคนิมิต 

 

ถ้าหากนักท่องเที่ยวไม่รู้จะไป

Cr : Sanook

ที่ไหนดีชลบุรี แนะนำว่าควรจะไป 3 วัดดังเกาะสีชัง ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อการเริ่มต้นการท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ นอกจากจะได้เสริมสิริมงคลแล้วยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะต่าง ๆ ทั้งของไทยและของจีนที่มีการผสมผสานมาเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับเกาะสีชังชลบุรี มาเป็นระยะเวลานานด้วย

 

วัดแสนสุขสุทธิวราราม (วัดแสนสุข)

วัดแสนสุขสุทธิวราราม-วัดแสนสุข

วัดแสนสุขสุทธิวราราม (วัดแสนสุข)

วัดแสนสุข ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ใกล้กับชายหาดบางแสน เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 30 ปีแล้ว จากเดิมเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่เท่านั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นวัดที่ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับ พระพุทธศาสนา นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก เนื่องจากเป็นวัดที่มีความสวยงาม และยังมีรูปปั้นที่เกี่ยวกับนรก สวรรค์เป็นไฮไลท์อีกด้วย แต่อีกหนึ่งแลนมาร์คที่มีชื่อเสียง และเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานคือ มหาเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณีอาสนสุขมหาวิหาร หรือ มหาเจดีย์วัดแสนสุข ที่มีความงดงามตระการตามาก 

มหาเจดีย์เกตุแก้ว สร้างแบบคล้ายเจดีย์วัดอัษฎางคนิมิต บนเกาะสีชัง ซึ่งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกัน ภายในเจดีย์แห่งนี้บรรจุ พระบรมธาตุ พระธาตุ อัญมณีธาตุ เครื่องเทียบบรรณาการทองคำ พร้อมวัตถุมงคล เพื่อให้ผู้ที่มากราบไหว้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รอบๆ ทิศของมหาเจดีย์ มีบันไดนาคทอดยาวอยู่ มีสีแตกต่างกันไป นับได้ว่ามีความสวยงามสบายตามาก

ในส่วนของสวนปั้น มีทั้งความสวยงามและน่ากลัว อย่างในเรื่องของนรกและสวรรค์ เพื่อเตือนใจให้คนหมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว หากเราพาบุตรหลานไปไหว้พระแล้ว พาเดินชมสวนปั้น ยังใช้เป็นเครื่องมือสอนบุตรหลานเรื่องความดีความชั่วได้ด้วย โดยพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็น “สวนพุทธ” จะเริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าประสูติ เพื่อให้ศึกษาเกี่ยวกับพุทธประวัติ และเลยไปถึงในส่วนของ “แดนนรก” จะเป็นรูปปั้นพวกเปรตที่โดนลงโทษในนรก เพื่อเตือนใจให้คนกลัวการทำบาปแล้วต้องไปชดใช้กรรมในนรก และในส่วนของ “เมืองสวรรค์” ก็จะมีรูปปั้นของเทพเจ้าต่างๆ ซึ่งจะมีแตกต่างกันไปตามลัทธิ เช่น กำเนินพระเยซู เจ้าแม่กวนอิม และ 18 อรหันต์ เป็นต้น และยังมีเทพเจ้าอื่นๆ ที่มีความสวยงามอีกมากมาย

กิจกรรมที่วัดแสนสุขสุทธิวราราม

  • ไหว้พระขอพร
  • ให้อาหารปลา
  • ให้อาหารนก
  • ถ่ายรูป

สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

  • ห้องสุขา
  • หน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • สัญญาณ wifi
  • ทางลาดสำหรับผู้ที่ใช้รถวีลแชร์

ที่จอดรถ

ลานจอดรถกว้างขวางด้วยพื้นที่ของวัดขนาด 32 ไร่ สามารถจอดรถได้อย่างสะดวกสบาย

ร้านอาหาร

สำหรับภายในวัดนั้นไม่ได้มีร้านอาหารไว้บริการ แต่เนื่องจากรอบด้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้วดังนั้นร้านอาหารก็จะมีอยู่ตลอดทาง จะแวะทานกันก่อนแล้วค่อยไปวัด หรือจะไปเที่ยววัดแล้วค่อยออกมาหาทานก็ได้เช่นเดียวกัน

สถานท่องเที่ยวใกล้เคียงกับวัดแสนสุขสุทธิวราราม

  • หาดบางแสน
  • สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา
  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน
  • ถนนคนเดินบางแสน
  • จุดชมวิวเขาสามมุข
  • ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข
  • แหลมแท่น

เวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

ช่วงเวลาท่องเที่ยว

สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ที่ตั้งของวัดแสนสุขสุทธิวราราม

ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง  จังหวัดชลบุรี

ที่พัก

เนื่องจากวัดแสนสุขอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวหาดบางแสนอยู่แล้ว ดังนั้นที่พักรอบๆ บริเวณนั้นจะมีเยอะอยู่แล้วทั้งบังกะโล ห้องพักรายวัน โรงแรม ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ที่พักบริเวณใกล้เคียงได้แก่

  • โรงแรมเดอะซิกเนเจอร์ รีสอร์ท บางแสน
  • เดอะไทด์ รีสอร์ท
  • Rito Bangsan
  • J Room Bangsan

การเดินทาง/วัดแสนสุข

สำหรับการเดินทางนั้น หากไปจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง

  • รถยนต์ส่วนตัว 
  • รถโดยสาร 

เหมาะสำหรับ

  • กลุ่มครอบครัว
  • กลุ่มวัยทำงาน
  • กลุ่มนักเรียนนักศึกษา
  • กลุ่มสตรี
  • กลุ่มคู่รัก
  • กลุ่มผู้สูงอายุ

การเดินทาง

  • รถยนต์
  • รถโดยสารประจำทาง
  • มอเตอร์ไซค์

จะเห็นได้ว่าวัดแสนสุข มีความสวยงามและมีหลักการสอนที่ดีมาก เราสามารถ

เรียนรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติได้อีกด้วยจากงานปั้น ที่สำคัญสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรอบๆ วัดก็มีอยู่มากมาย เราอาจแวะเที่ยวไปพร้อมๆ กันได้หลายจุดภายในวันเดียว แดดร่มลมตกก็ออกมานั่งชิลล์ริมชายหาดบางแสนทานมื้อค่ำได้อีก หรือจะไปไหว้เจ้าแม่เขาสามมุขด้วยก็ยังมีเวลาเหลือเฟือ 

และภายในวัดยังสามารถให้อาหารนก ให้อาหารปลาและเต่าได้อีกด้วย โดยทางวัดได้จัดศาลากลางน้ำไว้สำหรับให้อาหารนกและปลา นับว่านอกจากได้ทำบุญไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตแล้ว ยังได้ทำทานให้กับสัตว์ด้วย ทำให้รู้จังการแบ่งปันให้กับผู้อื่น นอกจากนี้ในระหว่างวันกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือการถ่ายภาพนั่นเอง เพราะภายในวัดมีจุดที่สวยงามหลายจุด ทั้งมหาเจดีย์เกตุแก้วก็สวยงามทั้งองค์พระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายใน ล้อมรอบด้วยเสาสีองสวยงามทั้ง 8 ต้น  และบริเวณมหาเจดีย์ทั้งด้านนอก ด้านใน ก็สามารถเก็บภาพถ่ายได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ หรือจะถ่ายภาพรูปปั้นต่างๆ เก็บไว้ดูหรือเก็บไว้ให้ลูกหลานดูเกี่ยวกับการจำลองนรกสวรรค์เพื่อนำไปสอนต่อก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

วัดแสนสุขนี้ยังติดอันดับ 18  ของการจัดอันดับพิพิธภัณฑ์สุดแปลกจากทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Trip advisor Japan ดังนั้นใครที่ได้มาชลบุรีแล้วต้องลองมาดูความสวยงามที่ไม่ธรรมดาของวัดแสนสุข แต่ต้องบอกกันไว้ก่อนว่าในช่วงเวลากลางวันนั้นแดดค่อนข้างแรงทางที่ดีควรเตรียมร่มหรือหมวกมาไว้กันแดดกันสักหน่อยก็พอช่วยได้

            ถ้าหากได้มาเที่ยวจังหวัดชลบุรีแล้วไม่ได้มาแวะเที่ยวที่ วัดแสนสุข ที่ว่าพลาดหรือมาไม่ถึงจังหวัดชลบุรีนะครับ เพราะที่นี่มีสถานที่ถ่ายรูปและยังได้ไหว้พระขอพรอีกด้วนครับ

วัดเขาตะแบก วัดดังย่านศรีราชา

วัดเขาตะแบก-วัดดังย่านศรีราชา

วัดเขาตะแบก วัดดังย่านศรีราชา

จังหวัดชลบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ได้มีดีแค่ทะเลอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีวัดดังย่านศรีราชาอย่าง ‘วัดเขาตะแบก’ อีกด้วย ซึ่งชื่อวัดก็มาจากการที่บนเขามีต้นตะแบกจำนวนมาก บอกเลยว่าวัดนี้ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากหาที่ทำบุญ ไปพร้อมกับชมวิวพักผ่อนหย่อนใจและมีผจญภัยเล็กๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะจุดชมวิวบริเวณสกายวอล์ค เรียกว่าถ้าไม่มาถือว่าผิด

ประวัติวัดเขาตะแบก

เรามาเริ่มกันที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับใครที่อยากมาไหว้พระขอพรกันก่อน ใช้เวลาตรงจุดนี้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงเพื่อขึ้นไปบนเขาตะแบก ที่ด้านบนทุกคนจะสามารถสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองและหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งทางวัดเตรียมจะหล่อหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่หน้าตัก 14 เมตร สูง 32 เมตร ใช้ทองเหลืองหนัก 45 ตัน หรือ 45,000 กิโลกรัมด้วย หากองค์นี้เสร็จสมบูรณ์ก็นับว่าเป็น หลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกนั่นเอง โดยหลายคนตั้งใจมาปิดทองหลวงพ่อโสธรองค์เก่าแก่ที่อยู่คู่กับวัดมากว่า 60 ปี หรือบางคนจะมาเขียนขอพรก็ได้ แต่ถ้าตั้งใจมาสักการะหลวงพ่อโสธรก็สามารถซื้อดอกไม้ธูปเทียนได้ที่ด้านล่าง เพราะด้านบนไม่มีขาย

 

หลวงพ่อโสธร หรือหลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวไทยมาเป็นเวลาช้านาน เชื่อว่าหลายคนเคยมีโอกาสได้ไปกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตและครอบครัวกันมาบ้างแล้ว และด้วยความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของหลายคน ทางวัดจึงได้ประดิษฐานรูปหล่อใหญ่โตอลังการไว้ที่วิหารบนยอดเขาของวัดแห่งนี้

โดยทางขึ้นไปด้านบนเขาก็มีสองแบบ คือ ทางที่ขับรถยนต์ขึ้นไปได้ กับอีกทางคือเดินขึ้นไปมีบันไดประมาณ 339 ขั้น แน่นอนว่าเรื่องความสูงชันไม่ต้องพูดถึง ใครมีแรงกายแแรงใเต็มเปี่ยมก็เดินกันสบายๆ ชิลๆ ได้ความรู้สึกคล้ายกับตอนขึ้นเขาคิชกูฏ เพราะนอกจากธรรมชาติข้างทางที่เราได้สัมผัส และเก็บเกี่ยวบรรยากาศร่มรื่นแล้ว การันตีได้เลยว่าเป็นวัดที่มีวิวสวยมาก ๆ ยิ่งใครที่ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วจะยิ่งประทับใจกับวิวรอบทิศแบบ 360 องศา บรรยากาศดี ลมพัดเย็น มองไปเห็นอ่างเก็บน้ำหนองค้อ คุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาจริงๆ อ่อ! แนะนำว่ามาช่วงเช้ากับบ่าย หรือเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็นจะโอเคมาก เพราะตอนเที่ยงแดดร้อยมากไม่แนะนำหากใครอยากเดิน ส่วนถ้าใครจะทำบุญถวายสังฆทานที่ด้านล่างก็ทำได้

 

ด้วยความที่เป็นวัดดังย่านศรีราชา ผู้คนจึงหลั่งไหลกันมาทำบุญ ไหว้พระขอพรกันเป็นจำนวนมาก แต่ความน่าสนใจยังไม่หมดแค่นี้ เพราะระยะทางกว่าจะเดินไปขึ้นบันไดสูงชัน ยังมีความงดงามของทางเดินถึง 2 จุดด้วยกัน จุดแรกเป็นสะพานยาวที่มีผ้าหลากสีผูกเต็มทั้งสองข้างราวสะพาน สีสันสะดุดตาจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป เป็นความสดใสที่เข้ากับสีเขียวของต้นไม้ที่เป็นฉากหลังได้อย่างดี

 

ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้นั่นคือ บริเวณสกายวอล์ค สะพานกระจก แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอำเภอศรีราชา ชลบุรี ที่สามารถมองเห็นด้านข้างและด้านล่างได้พร้อมๆ กัน และเชื่อว่าหลายคนตั้งใจมาถ่ายรูปตรงนี้กันมากแน่ๆ ก่อนเดินเข้าไปในสกายวอล์คต้องเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท (ค่าเข้าชมนี้ ทางวัดเก็บรวบรวมมาเพื่อสมทบทุนในการสร้างหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่) เด็กนักเรียนเข้าชมฟรี โดยในบัตรจะมีแถบสีแสดงอยู่ และเจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปทีละสี ซึ่งหลังจากได้บัตรมาแล้วก็เดินต่อได้อย่างสบายใจ และมั่นใจเรื่องความปลอดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสร้างสร้างแข็งแรงแน่นหนา ตัวแผ่นกระจกก็หนามากๆ ความยาวของสะพานกระจกประมาณ 50 เมตร ส่วนความยาวของสะพานอยู่ที่ 226 เมตร และจำกัดการเข้ามาบนสะพานกระจกไม่เกิน 100 คนต่อรอบ ซึ่งระหว่างทางจะเห็นผู้คนพลัดเปลี่ยนกันถ่ายภาพอยู่ตลอดทาง โดยจะมีเวลาเปิดปิดบอกคนที่จะเข้ามาอย่างชัดเจน คือช่วง 07.00 – 18.00 น. บริเวณบันไดทางลงก็ค่อนข้างชัน เวลาเดินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกันด้วยนะ ที่สำคัญคืออยากให้ทุกคนปฏิบัคิการกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่เดินย้อนศร ตรงที่เป็นทางลงก็ไม่ควรเดินกลับขึ้นมาทางนั้น

 

เป็นยังไงกันบ้างกับวัดดังย่านศรีราชาอย่าง ‘วัดเขาตะแบก’ ที่ตั้งอยู่ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่เป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นวัดที่มีวิวสวยงาม ใครที่ยังไม่เคยมาต้องมาสักครั้งในชีวิต เรื่องความสะดวกทางวัดก็จัดการได้อย่างเป็นระบบระเบียบ

นอกเหนือจากที่เราเล่าให้ฟังข้างต้นแล้ว

ส่วนอื่น ๆ ก็ยังมีบริการร้านอาหารสวัสดิการของทางวัดที่รสชาติดี ราคาเบาๆ และหากใครสงสัยว่าต้องเตรียมตัวอะไรอีกบ้างนอกจากร่างกายที่จะมาเดินขึ้นบันได แนะนำว่าติดร่มสักคันมาด้วยก็อุ่นใจดีจ้า เพราะถ้าคำนวนเวลาผิดแล้วมาตอนแดดออก ร่มนี่เป็นตัวช่วยที่ดีจริงๆ อีกอย่างคือ ใครที่จะพาครอบครัวไปต้องวางแผนดี ๆ นะ เพราะไม่แนะนำให้เด็กกับผู้สูงอายุเดินขึ้นบันไดเด็ดขาด เป็นห่วงข้อเข่ากับความซุกซนของเด็กๆ มาก

และทริปต่อไปถ้าจะมาเที่ยวที่ชลบุรี อย่าลืมแวะมาที่วัดเขาตะแบกด้วย จะได้ทั้งความอิ่มอกอิ่มใจไปกับธรรมชาติ และอิ่มบุญกลับบ้านอีกด้วย



วัดหลวงพี่แซม ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ จ.ชลบุรี

วัดหลวงพี่แซม ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์

วัดหลวงพี่แซม ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์

สายบุญเชิญทางนี้ สำหรับใครที่ชอบเข้าวัดทำบุญไม่ว่าจะทริปไหนต้องไปวัด เราคิดว่าคุณต้องถูกใจสถานที่แห่งนี้ นั่นคือ ‘วัดหลวงพี่แซม’ วัดดังชลบุรี วัดสวยที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ เพียงขับรถมาวัดจะอยู่ติดถนนเส้น 331 พนัสนิคม- สัตหีบ ก็จะเดินทางมาถึงวัดในตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยจุดเด่นที่ทำให้ผู้คนที่มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอยากมาวัดแห่งนี้ คือการมาชมความงดงามของ ‘ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์’ และมาไหว้พระขอพรพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง หรือหลวงพ่อยิ้มเปิดฟ้า

วัดหลวงพี่แซม มีอะไรบ้าง

เราขอเริ่มต้นกันที่ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ หรือ วัดหลวงพี่แซม ซึ่งเป็นไฮไลท์ของวัดนี้ก่อน บอกเลยว่าถ้ำนี้ถูกสร้างโดยฝีมือมนุษย์ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ก่อนเข้าไปต้องสำรวจการแต่งการตัวเองด้วยว่าสุภาพไหม หากใครใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นจนเกินไปก็มีผ้าถุงให้ใส่ เมื่อเข้ามาในถ้ำทุกคนจะได้เห็นการตกแต่งประดับประดามากมาย ยิ่งเดินดูไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำให้เราเข้าใจเรื่องราวพุทธประวัติได้มากขึ้น เพราะช่างฝีมือตั้งใจรังสรรค์ศิลปะภายในถ้ำได้อย่างลงตัว ตามจุดต่างๆ จะมีทั้งปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ฤษี และปู่ชูชก มีชุดทำบุญปู่โสมเฝ้าทรัพย์ด้วย  นอกจากนี้ยังมีองค์พระพุทธรูปซึ่งทางวัดได้รวบรวมพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมายเพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ตามความศรัทธา ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อนครสวรรค์ หลวงพ่อโสธร พระพิฆเนศ และเสด็จปู่พญายม และที่ประทับใจที่สุดคงเป็นสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองบาดาล จึงเรียกได้ว่าจำลองสถานที่อยู่ของพญานาคไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งบริเวณห้องโถงส่วนกลางจะมีพญานาค 7 เศียร หรือ องค์อนันตนาคราช อยู่กลางสระน้ำเสมือนกำลังเล่นน้ำอยู่ มองแล้วสวยงามตระการตามากๆ นอกจากมองแล้วจะรู้สึกเย็นตา บรรยากาศภายในก็เย็นสบายจริงๆ ไม่ร้อนเลย โดยการจัดแสงไฟลอดไฟส่องประดับก็ชวนหลงไหลและมีมนต์ขลังสุดๆ แต่ละจุดสามารถถ่ายรูปได้หมดเลย ไฟจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ อีกทั้งภายในถ้ำยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวัตถุมงคลมากมายให้ได้เช่ากลับไปเป็นสิริมงคลด้วย ทั้งนี้ บริเวณนี้ยังเป็นศูนย์รวมให้ชาวบ้านได้มาสักการะบูชา รวมถึงนักท่องเที่ยวก็มาขอพรกันเป็นจำนวนมาก

โดยจะมีการทำพิธีบูชาด้วยการนำพานบายศรีรูปพญานาคสุดงดงามมาสักการะ พร้อมทำบุญลูกแก้ว 99 บาท 1 ดวงจิต ต่อ 1 ลูกแก้ว และจะมีแม่ชีมานำทำพิธีให้ และส่วนใหญ่ผู้คนมักจะขอเรื่องความร่ำรวยสมบูรณ์พูนทรัพย์ เราเลยจะเห็นลูกแก้วที่พุทธศาสนิกชนนำมาถวายสะท้อนแสงไฟอลังการมาก

ภายในวัดยังมีอีกจุดหนึ่งที่หลายคนตั้งใจมาไหว้พระขอพร

นั่นคือบริเวณอุโบสถที่เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง หรือหลวงพ่อยิ้มเปิดฟ้า เชื่อกันว่าหากใครได้มากราบไหว้สักการะจะพบกับความสุขและความสำเร็จ

ส่วนความตั้งใจในการสร้างหลวงพ่อยิ้มเปิดฟ้า พระประธานของวัดขึ้นมานั้น ก็มาจากผู้ใจบุญได้จัดสร้างขึ้น เพื่อให้คนที่ศรัทธาหลวงพ่อได้กราบไหว้บูชา แน่นอนว่ามีผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ และสิ่งของมีค่า เช่น เพชร ทอง พลอย พระแก้วมรกรตโบราณ พระมหาจักรพรรดิ และอื่นๆ เพื่อบรรจุไว้ในหัวใจของหลวงพ่อยิ้มองค์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งใครที่มากราบไหว้ท่าน ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น พลิกชะตาจากรร้ากลายเป็นดีได้ มีความมั่งคั่งทั้งโชคลาภและเงินทองดังความตั้งใจของผู้ร่วมสร้าง

 

หลังจากไหว้พระขอพรและเดินชมความงดงามที่ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจด้านนอกอุโบสถและด้านถ้ำลอดได้ เพราะบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย ให้ความรู้สึกไม่เหมือนมาวัด แต่เหมือนมารีสอร์ตมากกว่า ใครอยากนั่งใต้ต้นไม้ก็เลือกได้เลยมีหลายจุดที่เป็นโต๊ะหินอ่อน ส่วนถ้าใครหิวด้านนอกวัดมีบริการร้านอาหารขายอยู่ด้วย

 

แนะนำว่าถ้าหากอยากมาชมความส่วนงามและสักการะศักดิ์สิทธิ์ที่วัดดังชลบุรีแห่งนี้ ควรมาในวันธรรมดานะ เพราะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผู้คนจะแวะมากันเเยอมาก จนบางครั้งต้องรอต่อแถวกันเพื่อเข้าไปชมความสวยงามภายในถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ วัดหลวงพี่แซม กันเลยทีเดียว

 

สำหรับที่จอดรถก็สะดวกสบาย เพราะทางวัดมีที่จอดนอกวัดและมีรถรับส่งเข้าวัด ส่วนใครที่อยากมาปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ฟื้น ชุตินุธรมหาเถร ทางวัดก็เปิดให้เข้ามารักษาศีลและนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมด้วย โดยทางวัดต้องการจะเน้นให้คนมาปฏิบัติธรรมเป็นหลัก ดังนั้นบริเวณถ้ำลอดนี้ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างสถานที่ที่เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมากรองรับได้อย่างเต็มที่ ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์จึงเปรียบเสมือนสมบัติของชาติและของคนไทย เนื่องจากมาจากปัจจัยที่ผู้ใจบุญทำบุญบริจาคเข้ามาให้ทางวัดนั่นเอง

 

เอาเป็นว่าใครอยากมาเห็นความวิจิตรงดงามภายในถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ด้วยตาตัวเอง ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพญานาค ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงคำชะโนดก็ได้ไหว้องค์พญานาคเช่นกันแบบใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน แล้วคุณจะพบความสงบร่มเย็นภายในจิตใจหากได้มาที่วัดแห่งนี้ รับรองว่าทุกคนจะต้องชื่นชอบแน่ๆ

 

เช็คอิน 3 วัดดังต้องห้ามพลาดในชลบุรี ต้อนรับปีใหม่

เช็คอิน 3 วัดดังต้องห้ามพลาดในชลบุรี

           จังหวัดชลบุรี ถือเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวต่างเลือกเมาที่ยวกันอย่างล้นหลาม อีกทั้งในด้านของการเดินทางแบบสะดวกสบาย แถมใช้เวลาในการเดินทางไม่นานจังหวัดชลบุรีจึงติดอันดับที่ทำรายได้การท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้กับ “3 วัดดังในจังหวัดชลบุรีที่ต้องห้ามพลาด” ได้ชมสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่อลังการ บรรยากาศร่มรื่น และการไหว้พระเพื่อให้จิตใจดีขึ้น

  1. พระพุทธฉาย เขาชีจรรย์

           เขาชีจรรย์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในจังหวัดชลบุรี ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็น สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร โดยจุดเด่นของเขาชีจรรย์นั้น คือสถาปัตยกรรมทางการสร้างที่เป็นศิลาอย่างงดงามถือได้ว่าหาชมยากมากในปัจจุบันนอกจากนี้ บริเวณหน้าด้านอุโบสถ ยังมีพระพุทธรูป ประดิษฐานอยู่โดยรอบตั้งอยู่เป็นสง่าตระการตา ภายในอุโบสถยังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักที่แสดงถึงความสามารถของคนไทยในยุคก่อน ใครเห็นต่างก็อยากที่ทำบุญ สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด ใครมาเที่ยวชลบุรีก็อย่าลืมแวะมาที่นี่กันได้เลยสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแนะนำว่าให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเพราะทางวัดเน้นในเรื่องของการแต่งกายเป็นมาก

  1. วัดอัษฎางคนิมิตร เกาะสีชัง

            วัดอัษฎางคนิมิตร ตั้งอยู่ในตำบลท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เป็นวัดที่สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนวัดอื่นๆในประเทศไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเล็งเห็นว่าพื้นที่แห่งนี้มีความเงียบสงบเหมาะกับมาปฏิบัติกรรมฐาน ศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างวัดแห่งนี้มาและให้ใช้ชื่อว่า วัดอัษฎางคนิมิตร ใครที่ยังไม่เคยมาต้องห้ามพลาดมาสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดชลบุรี

  1. วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋)

            วัดสัตหีบ หรือ วัดหลวงพ่ออี๋ ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชลบุรี เนื่องจากหลวงพ่ออี๋เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างเลื่องลือว่าท่านมีความชำนาญในด้านของการปลุกเสกและการวิปัสสนากรรมฐาน รวมถึงท่านได้ปลุกเสกเครื่องรางต่างๆที่เสริมดวงชะตา ซึ่งผู้คนที่ทำงานในเรื่องของอาชีพค้าขายต่างมาหาท่านเพื่อให้ท่านปลุกเสกให้และจะทำให้การค้าขายนั้นเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ท่านยังได้ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ต่างๆ เช่น ผ้ายันต์ ผ้าพันหมวกทหารเรือ และปลัดขิกอีกด้วย ปัจจุบันเหลือเพียงแต่ความเชื่อที่ชาวบ้านและคนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างยังให้ความศรัทธาและแวะเวียนมาสักการบูชากันอย่างไม่ขาดขาย

            เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 ดังต้องห้ามพลาดในชลบุรี ใครได้มีโอกาสมาเที่ยวชลบุรีอย่างลืมแวะเวียนมาไหว้สักการะบูชา เพื่อเสริมสิริมงคล เพื่อให้ชีวิตและการงานปังๆขึ้นไปอีก หากสนใจเรื่องราวต่างๆในชลบุรีกดอ่านเพิ่มเติมได้เลย ! ที่ไหนดีชลบุรี