เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ของประเทศไทย

เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา

หากพูดถึงจังหวัดชลบุรีแล้วนั้น หลายๆคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไปลจากกรุงเทพ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามีสถานที่เด็ด ที่บอกได้เลยว่า เป็นทั้งที่เที่ยวที่กิน ครบจบในที่เดียว นั่นก็คือ เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน อาหารทะเลสดๆ นานาชนิดที่ขายกันที่ตลาดแห่งนี้ราคาก็ถือว่าย่อมเยา โดยภายในตลาดสะพานปลาจะมีจุดที่รับปรุงอาหารทั้งต้ม ย่าง นึ่ง พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ขายแบบพร้อมรับประทาน หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการเช็คอินสะพานปลาอ่างศิลาตลาดอาหารทะเล เพื่อซื้อกุ้ง หอย ปู ปลาสดๆ ใส่กล่องโฟมเพื่อรักษาความสดแล้วนำขึ้นรถกลับบ้านก็สามารถทำได้เช่นกัน นอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้ว ที่สะพานปลาอ่างศิลายังมีอาหารทะเลแปรรูปต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อตามใจชอบ

เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา ปักหมุดแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ที่สายกินต้องห้ามพลาด 

อยากอาหารทะเลสดๆ ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงภาคใต้ เพราะวันนี้เราจะมาชี้แหล่งรวมอาหารทะเลสุดๆ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างที่เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ที่มีทั้งทะเลสวยและอาหารสดส่งตรงจากทะเลในราคาที่ไม่แพงเกินจริง เพราะที่นี่เป็นแหล่ง เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลาชลบุรี รวมอาหารทะเล ไม่วาจะเป็น กุ้ง ปู ลา บอกเลยว่าจัดเต็มหลายร้านแถมยังมีมุมถ่ายรูปเช็กอินสวยๆ ในตลาดอีกด้วย มุมดี วิวโดนมากๆ เอาเป็นว่าที่นี่จะมีอะไรให้ซื้อกันบ้างตามมาดูกันเลย

  • สะพานปลาอ่างศิลา ตั้งอยู่ที่ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เดิมเรียกกันว่า “สะพานหิน” สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 ชาวประมงที่ต้องการให้จังหวัดชลบุรีมีท่าเทียบเรือสาธารณะได้เรียกร้องให้สร้างสะพานปลาแห่งนี้ขึ้น ปัจจุบัน เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลาบางแสน คือท่าเทียบเรือประมงที่บรรยากาศการซื้อขายอาหารทะเลสดๆ เป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยชาวประมง พ่อค้า แม่ค้า ที่วางแผงขายอาหารทะเลกันอยู่บนสะพานปลาตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงค่ำๆ โดยในช่วงเช้ามืดจะมีเรือประมงมาเทียบท่าที่สะพานปลาอ่างศิลา เพื่อขึ้นอาหารทะเล หากต้องการชมวิธีการดำเนินชีวิตของชาวประมงนักท่องเที่ยวก็สามารถไปตั้งแต่เช้าเพื่อไปดูวิธีการขึ้นของทะเลและจำหน่ายที่บริเวณสะพานปลาอ่างศิลาได้ พอสะพานแห่งนี้ก่อสร้างเสร็จสิ้น ชาวประมงก็มีการนำอาหารทะเลสดๆ มาขายกัน ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา รวมไปถึงที่นี่ก็มีสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง ครกหิน มาวางขายอยู่ด้วยกัน แต่ในปัจจุบันนั้นมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ ซึ่งกลายมาเป็น ตลาดประมงอ่างศิลา โฉมใหม่ และเพิ่มเติมคือมี ประภาคาร สวยงดงามที่อยู่ช่วงปลายสะพาน ทำให้ที่นี่กลายมาเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ใกล้กรุงเทพฯ ของใครหลายๆ คนเลย จากที่เมื่อก่อนนั้นจะเน้นมาซื้ออาหารทะเลสดๆ แต่ตอนนี้มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เช็คอินเพิ่มด้วย และยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกแบบฟินๆ ได้ด้วยเช่นกัน
  • อ่างศิลาในอดีตหากใครไปเที่ยวบางแสน คงจะจำได้ว่าเคยเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงด้านการทำครกหิน ที่ใครหลายๆคนรู้จัก ขับรถผ่านจะเห็นครกตั้งเรียงรายขายกันเต็มสองข้างทาง แต่ในปัจจุบันได้มีการทำถนนให้สามารถเดินทางเข้าไปได้สะดวกมากกว่าแต่ก่อนทำให้อ่างศิลามีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารทะเลสด ปัจจุบัน มีการเปิดตลาดเก่าอ่างศิลาคล้ายๆกับถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวได้ไปเดินเที่ยวแต่ว่าไม่ค่อยมีคนมากนักแต่หากเลยมาอีกสักนิด จะพบกับตลาดสะพานปลาอ่างศิลา เป็นตลาดที่มี กุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ ยกจากเรือมาขึ้นที่สะพานปลา เปิดขายกันแต่เช้าซึ่งมีขายทั้ง หอยต่างๆ ทั้งหอยนางรม หอยแครง หอยแมงภู่ ปู ปลา ปลาหมึก ก็มากมายราคาไม่แพงเกินไป นอกจากอาหารทะเลสดๆกันแล้ว ยังมีอาหารทะเลแปรรูปต่างๆ ที่สามารถซื้อไปทานกันได้เลย เช่นหอยหวาน ปลาหมึกกะตอย หรือปลาหมึกหวาน ปลาหวานต่างๆ
  • หากวันหยุดนี้ อยากทานอาหารทะเลสดๆ ราคาไม่แพง ลองแวะไปที่ตลาดสะพานปลาอ่างศิลา เลือกดูหลายๆร้าน แล้วจะได้อาหารทะเลอร่อยราคาไม่แพงกลับไปทาน อิ่มอร่อยกันได้ทั้งบ้านเลย แนะนำสำหรับใครที่จะซื้อกลับบ้าน ควรเตรียมถังโฟมมา แล้วขอน้ำแข็งจากแม่ค้าได้ หรือหากไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย มาซื้อกล่องโฟม สำหรับซื้อของกลับบ้าน จากตลาดนี้ก็ได้ มีขายมากมาย ในส่วนของการเดินทางไปเช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา ตลาดอาหารทะเล  ตั้งอยู่ที่ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี ห่างจากตัวจังหวัด 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 20 นาทีเวลาทำการเปิด – ปิด เปิดทุกวัน เวลา 5.00 – 20.00 น. 

เช็คอินสะพานปลาอ่างศิลา เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน มีอาหารทะเลสดๆ นานาชนิด อีกทั้งราคาก็ถือว่าย่อมเยา เหมาะแก่การมาซื้อของฝากติดไม้ติดมือเป็นอย่างมาก มาเที่ยวชลบุรีทั้งที ต้องแวะเช็คอินสะพานปลาอ่างศิลาบางแสน 

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ที่พักระยองอัปเดต 2023 รวมโรงแรมที่ดีที่สุดมาบริการคุณ

จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย ต้องแวะมาถ่ายรูปที่ J park ที่เที่ยวศรีราชา

จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย

 หากใครกำลังมองหาที่ท่องเที่ยวที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศ ก็อย่าพลาด j park แห่งนี้  เพราะที่นี่เหมาะสำหรับใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศการเที่ยวแบบญี่ปุ่น ฉบับแดนอาทิตย์อุทัยกันได้ง่ายๆ ที่ จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย ที่ยกเอาบรรยากาศความเป็นเมืองญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่อย่างลงตัวครบครัน ตั้งแต่ตัวอาคารร้านเรือนต่างๆ ทางเดิน ร้านอาหาร ร้านขนม และการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเป๊ะ รับรองว่ามาจุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย ศรีราชา แล้วคุณจะต้องหายคิดถึงญี่ปุ่นกันอย่างแน่นอน 

จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย J park ที่เที่ยวยอดฮิตใกล้กรุงเทพ ต้องแวะมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

หลายๆ คนก็คงพอจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าจังหวัดชลบุรีของเรานั้น เป็นเมืองยอดฮิตในการท่วอเที่ยว แชะมีที่เที่ยวขึ้นชื่ออยู่หลายแห่งด้วยกัน และอย่างที่เราได้กล่าวไปเบื้องต้นว่า ว่าที่จังหวัดชบุรีของเรานั้นมี จุดเช็คอินญี่ปุ่นไทย ที่เรียกว่า J-Park (J-Park Sriracha Nihon Mura) หรือ เจ-พาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่อยากบินไกล  แนะนำว่าให้มา จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทยใกล้กรุงเทพ  รับรองตื่นตาแน่นอน ใครที่ได้มาเที่ยวชลบุรี หรือได้แวะมาท่องเที่ยวทางภาคตะวันนออก  อย่าลืมแวะ ถ่ายรูปสวยๆ กินอาหารอร่อย ที่ เจปาร์คศรีราชากันด้วยนะ เอาเป็นว่าวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จัก ว่าที่นี่มีความน่าสนใจอะไรบ้าง  ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย 

  •  J park ศรีราชานั้น ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบตกแต่งมาจาก หมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยเมจิ ช่วงยุคปลายเอโดะ และด้วยขั้นตอนต่างๆ ในการวางรูปแบบที่พิถีพิถัน โดยผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นกันเลย  ทำให้ J Park จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทยที่เที่ยวชลบุรี มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ในสไตล์ญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ทำให้ทุกท่านได้แวะไปเยี่ยมชม ได้สัมผัสกับบรรยากาศ กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างครบถ้วนเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ที่รวมเอาเหล่าร้านค้า และร้านอาหารมากมายมาไว้ด้วยกัน และที่มีความพิเศษมากกว่าช้อปปิ้งมอลล์ที่อื่นๆ ก็คือ ที่นี่มีการตกแต่งสวยงามตามสไตล์ญี่ปุ่นอย่างจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียว เมื่อคุณเดินเข้ามาจะรู้สึกเหมือนกับว่าได้เดินช้อปปิ้งทานข้าวอยู่ที่ญี่ปุ่นกันจริงๆ เลยนั่นเอง และในส่วนที่สร้างความสะดุดตาประทับใจอย่างสุดๆ ก็เนื่องจากที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ท่ามกลางตัวอาคารร้านเรือนต่างๆ ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับญี่ปุ่นโดยแท้ ซึ่งแต่ละแห่งล้วนผ่านการดีไซน์และจัดสร้างขึ้นในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมทั้งสิ้น เหมือนคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในยุคดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยสมัยก่อนอย่างไรอย่างนั้น
จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย
  • นอกจากนี้ ใครที่สนใจอยากจะแต่งตัวแบบสไตล์ญี่ปุ่น ก็ใต้องเสียเวลาหาซื้อเสื้อผ้า เพราะ ที่เจปาร์คก็ยังมีร้านเช่าชุดยูกาตะหรือชุดกิโมโนให้ได้ใส่เดินถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วย โดยคุณสามารถเช่าชุดใส่แล้วเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ที่มีการจัดตกแต่งแบบเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นทางเดิน, สะพาน, ของตกแต่งต่างๆ อย่างเสาโทโรอิ, นกกระดาษ, โคมแดง, โคมดารุมะ และสวนหย่อมสวยๆ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นบรรยากาศที่ให้กลิ่นอายดินแดนแห่งซากุระที่หลายคนฝันหาทั้งสิ้น ไม่เพียงเท่านั้น เพราะ ที่เจปาร์คบางจุดก็ยังมีที่ให้คุณเข้าไปขอพร ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอธิษฐานขอพรเหมือนกับในศาลเจ้าของญี่ปุ่นแท้ได้อีกด้วย นอกจากนี้จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย ศรีราชา ของเรายังมีเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น คุณจึงรู้สึกไม่ต่างจากการเดินเล่นพักผ่อนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยนั่นเอง มุมถ่ายรูปที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ ปราสาททอง ที่ตั้งอยู่ตั้งในของคอมมูนิตี้มอลล์ ติดกับสวนสวยค่ะ มุมนี้ เอาจริงๆ ถ้าไม่บอกว่าอยู่เมืองไทย ก็คือ ญี่ปุ่นเลยน้า และยังมีมุมอื่นๆ ที่น่ามาถ่ายรูปมากมาย มุมที่เราชอบมากๆ เลยก็คือ สะพานสีแดง ที่มีอยู่ทั่ว J Park ศรีราชา  เป็นเหมือนสะพานที่ข้ามผ่านบ่อปลาคาร์ปไป ยืนถ่ายรูปตรงนี้ บอกเลยว่าสวยมากๆ
  • และแน่นอนสำหรับสายกิน ที่นี่ก็จัดเต็มเมนูญี่ปุ่นมาให้แบบจุกๆ เลยจ้า ทั้งอาหารญี่ปุ่น ขนมญี่ปุ่น หรือจะเป็นปิ้งย่าง ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นก็มีพร้อมบริการ เลือกได้เลยอยากนั่งกินชิลๆ หรือเดินชิมของอร่อยๆ ก็จัดไป 
เป็นอีกพิกัดที่เดินได้เพลินๆ ทั้งวันตั้งแต่เช้าสิบโมงจนถึงสี่ทุ่มกันไปเลยยาวๆ ครบทั้งที่ถ่ายรูปสวยๆ และที่กิน วันหยุดนี้ใครหาที่เที่ยวฟีลแจแปนบอกเลยว่าไม่ควรพลาด

จุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย หากใครกำลังมองหาที่ท่องเที่ยวที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียเวลา บินไกลลัดฟ้าไปญี่ปุ่นแมยังประหยัดงบอีกต่างหาก  บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดจุดเช็คอินญี่ปุ่นในไทย ใกล้กรุงเทพ ของเรา เพราะที่นี่จะทำให้ทุกท่านได้สัมผัส กับบบรรยากาศและกลิ่นอายของญี่ปุ่น ได้แบบชัดเจนและจัดเต็ม 

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ทำบุญเสริมดวงที่ระยอง รวมวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ

ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง มณฑปรอยพระพุทธบาท เกาะสีชัง

ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง

หากให้พูดถึงจุดเช็คอินบนยอดเขาสูง ที่สามารถมองเห็นธรรมชาติอันกว้างขวาง คงหนีไม่พ้น มณฑปรอยพระพุทธบาท เป็นทั้งโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นแหล่งชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวบ้านเรือนของชาวบ้านบนเกาะสีชังที่สามารถมองทิวทัศน์ได้แบบพาโนรามากันเลย แล้วยังเป็น Unseen ยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ที่ถือเป็นไฮไลท์ของการขึ้นมามองดูทัศนียภาพ อันน่ามหัศจรรย์ และเหมาะที่จะขึ้นมา ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ ทางธรรมชาติอันสวยสดงดงาม เก็บความความทรงจำ ของการออกเดินทางมาที่แห่งนี้กันได้เป็นอย่างดี วันนี้เดี๋ยวจะพาทุกคนไป ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง เกาะสีชัง และมาทำความรู้จักสถานที่แห่งนี้ให้มากขึ้นเพื่อเป็นลิสท์ไว้สำหรับใครที่กำลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสีชังแห่งนี้กัน

ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง มณฑปรอยพระพุทธบาท จุดเช็คอินสวยๆที่ไม่ควรพลาด 

หากใครที่ได้มาท่องเที่ยวชลบุรี และหากกำลังมองหาวัดสวยๆ ดังๆ เพื่อไปแวะขอพร วันนี้เราเลยจะพาทุกท่านไป  ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูงซึ่งประดิษฐานอยู่บน ยอดเขาพระจุลจอมเกล้า ทางทิศเหนือของ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ห่างจาก ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ขึ้นไปอีกประมาณหนึ่ง ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง ใกล้กรุงเทพ บริเวณรอบๆ  เขาเป็นป่าสีเขียวครึ้ม และทะเลอันกว้างใหญ่ เรียกว่าเป็นทั้งที่ประดิษฐานปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งบนเกาะ แถมยังเป็นจุดชมวิวสวยๆ ที่พลาดไม่ได้เลยด้วย

  • รอยพระพุทธบาท (Buddha’s footprint) ตั้งอยู่บนยอดเขาพระจุลจอมเกล้าที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะ อยู่ที่เดียวกันกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แต่อยู่เหนือขึ้นไปด้านบนยอดเขา บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและยังเป็นจุดที่สามารถ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูงที่เที่ยวชลบุรี และชมวิวเกาะสีชังได้โดยรอบ ทั้งวิวของตัวเมืองเกาะสีชัง และยังสามารถมองเห็นทะเลทั้ง 2 ด้านของเกาะสีชังได้ ถือเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพและชมความสวยงามของเกาะสีชังจากมุมสูง ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2435 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ก็ทรงอัญเชิญ ศิลารอยพระพุทธบาทโบราณ ที่มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 500 มาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ขึ้นไปประดิษฐานตรงไหล่เขายอดพระจุลจอมเกล้า เพื่อเป็นศูนย์กลางความศรัทธาทางพุทธศาสนาบนเกาะสีชัง นับแต่นั้นมา บริเวณไหล่เขานี้ก็มีชื่อว่า “ไหล่คยาศิระแห่งยอดเขาพระจุลจอมเกล้า” โดดเด่นด้วย มณฑปสีขาว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า และพระพุทธรูป นอกจากนี้ยังมี มหาธาตุเจดีย์ และ หอระฆัง ให้เคาะเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย โดยตามประวัติคือเมื่อรัตนโกสินทร์ศก 111 หรือ พ.ศ. 2435 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพได้ศิลารอยพระพุทธบาทโบราณมาจากพุทธคะยาประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา แท้จริงในกาลก่อนเป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้เชิญรอยพระพุทธบาทนั้นขึ้นไปประดิษฐาน ณ ไหล่เขายอดพระจุลจอมเกล้าไว้เป็นที่สักการะบูชาของอาณาประชาราษฎร์บรรดาที่เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาสืบไป และพระราชทานชื่อไหล่เขาที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทนั้นว่า “ไหล่คยาสิระแห่งยอดเขาพระจุลจอมเกล้า”  
  • การได้เดินทางขึ้นไปสู่ ยอดเขาพระจุลจอมเกล้า ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและโดดเด่นที่สุดบนเกาะสีชังเลยก็ว่าได้ทำให้สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศสุดแสนจะเงียบสงบลมพัดสบายตลอดเวลา มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่ช่วยให้การขึ้นมาท่องเที่ยวและมานั่งพักผ่อนที่ประดิษฐานรอยพระพุทะบาทแห่งนี้ เปรียบเสมือนการได้ขึ้นมาสูดอากาศที่มีความบริสุทธิ์ เติมพลัง เติมความสดชื่นทางอารมณ์และจิตใจได้เป็นอย่างดี และต้องขอแนะนำเลยว่าเดินทางขึ้นมาช่วงเวลาเย็นเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่สวยงามสุด unseen มากๆเลย ยามพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าการได้ขึ้นมาเชยชมบนยอดเขาแห่งนี้เป็นความงดงามที่ดีเยี่ยมเลย
ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง
  • หลังจากที่ได้ขึ้นไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูง เกาะสีชัง เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ออกมาชมวิวสวยๆ ของเกาะสีชังกันค่ะ ด้วยความสูงถึง 295 เมตร จึงสามารถเห็นวิวทะเลทั้ง 2 ฝั่งของเกาะ รวมถึงบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายริมทะเล ประภาคาร สะพานปลา และท่าเรือได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญยังเป็น จุดชมอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในชลบุรีเลยก็ว่าได้

ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนยอดเขาสูง ต้องบอกเลยว่า ใครได้ที่มาเที่ยวชลบุรี ต้องไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาสูงใกล้กรุงเทพ ให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะนอกจากได้ขึ้นมาไหว้มณฑปรอยพระพุทธบาทแล้ว ก็ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลทั้ง 2 ฝั่งของเกาะ และวิถีชีวิตชุมชนที่เรียงรายริมทะเล ประภาคาร สะพานปลา ได้อย่างชัดเจน

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ทำบุญเสริมดวงที่ระยอง รวมวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ

แลนด์มาร์คสายบุญ แวะไหว้พระมหาเจดีย์วัดแสนสุข

แลนด์มาร์คสายบุญ
แลนด์มาร์คสายบุญ

จังหวัดชลบุรีของเราเป็นเมืองยอดนิมในการท่องเที่ยว ที่สำคัญของประเทศเลยก็ว่าได้  เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวครบครันทุกรูปแบบ แต่วันนี้เราขอเอาใจนักท่องเที่ยวสายมู พาไปชม แลนด์มาร์คสายบุญ  หนึ่งสถานที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ที่เราจะพาทุกท่านไปนั่นก็คือ วัดแสนสุข หรือ วัดแสนสุขสุทธิวราราม  แลนด์มาร์คสายบุญใกล้กรุงเทพ นี่เอง และที่สำคัญคือวัดนี้มีประติมากรรมปูนปั้นที่สุดยอดแห่งศาสนาเลยก็ว่าได้ นอกจากจะได้เข้าวัดทำบุญแล้ว ก็ยังสามารถเที่ยวชมความสวยงามของประติมากรรมได้อีกด้วย 

แลนมาร์คสายบุญ วัดดังขึ้นชื่อในจังชลบุรี สวยงามอร่า แปลกตา ถ่ายรูปเซลฟี่สวยทุกมุม 

จังหวัดชลบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคตะวันออกที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปเช็คอินกัน และแลนด์มาร์กที่จะพาไปเยือนครั้งนี้ก็คือ วัดแสนสุขวิสุทธิวราราม แลนด์มาร์คสายบุญ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ วัดแสนสุขนั่นเอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งที่ที่มีชื่อเสียงในชลบุรี เป็นสถานที่สำหรับให้เข้าไปทำบุญ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นวัดที่สวยงาม ไปชลบุรีห้ามพลาดไปแวะเช็คอินที่แลนด์มาร์คสายบุญ วัดแสนสุขชลบุรี

แลนด์มาร์คสายบุญ

ตั้งวัดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2513 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่กว้างกว่า 30 ไร่ ชื่อวัดที่เป็นที่รู้จักอีกชื่อนึงคือ วัดหลวงพ่อท้วม เป็น แลนด์มาร์คสายบุญใกล้หาดบางแสน เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากกว่า 30 ปี ซึ่งเมื่อก่อนเป็นแค่วัดมีพระภิกษุจำพรรษาเท่านั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น วัดแสนสุข อย่างในปัจจุบัน มีบริเวณพื้นที่ที่กว้างขวางเนื่องจากมีพื้นที่ถึง 30 ไร่ โดยจุดศูนย์กลางของวัดจะเป็น มหาเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณีอาสนสุขมหาวิหาร ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางอย่างสวยงาม แม้ว่าตัววัดจะมีความทรุดโทรเสื่อมสภาพตามกาลเวลา แต่ความงดงามและความเก่าแก่ที่ขลัง เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างน่าหลงใหล หากใครได้มาเห็นบรรยากาศในยามเย็นจะพบว่าที่วัดแห่งนี้สวยงามอย่างน่าประทับใจ เนื่องด้วยตัววัดมีพื้นที่ที่กว้างขวางอย่างมากทำให้ภายในมีสถาปัตยกรรมให้ได้รับชมและสักการะพอสมควร ซึ่งเราจะพาทุกท่านไปชมสิ่งสำคัญที่เป็นไฮไลท์ที่ไม่ว่าใครมาที่วัดแห่งนี้ต้องแวะสักการะและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นั้นก็คือ “มหาเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณีอาสนสุขมหาวิหาร” จัดสร้างแบบคล้ายเจดีย์วัดอัษฎางคนิมิต บนเกาะสีชัง รอบด้านทั้ง 4 ทิศของมหาเจดีย์ฯ ถูกล้อมรอบด้วยพญานาค 7 เศียร ซึ่งมีสีแคกต่างกันไป โดยพญานาคด้านหน้าจะเป็นสีทองอร่าม เมื่อเดินวนไปซ้ายของมหาเจดีย์ฯ จะพบกับพญานาคสีน้ำเงินเข้มเหลือบด้วยสีเหลืองดูหน้าเกรงขาม ส่วนด้านหลังจะเป็นพญานาคสีฟ้าอ่อนปนเหลืองส้ม และสุดท้ายคือด้านขวาของมหาเจดีย์ฯ จะเป็นพญานาคสีเขียวอ่อนเหลือบด้วยสีขาว ลำตัวของพญานาคทั้ง 4 ทิศเป็นเหมือนสะพานที่ทอดยาวข้ามน้ำ เพื่อเข้าสู่บันไดทางขึ้นไปยังมหาเจดีย์ฯ  

  • ภายในเจดีย์แห่งนี้ประกอบ พระบรมธาตุ พระธาตุ อัญญมณีธาตุ เครื่องเทียบบรรณาการทองคำ พร้อมวัตถุมงคล บรรจุอยู่ในเจดีย์แห่งนี้ เพื่อให้ผู้ที่มากราบไหว้เกิดความเป็นสิริมงคล ให้ความรู้สึกเงียบสงบ โล่งสบาย เพราะมีเพดานสูงและหน้าต่างรอบด้าน จิตรกรรมฝาผนังและบนเพดานสวยงามมีเอกลักษณ์ชวนมอง โดยผนังด้านในจะเป็นสีชมพูอ่อนดูสบายตา ส่วนเสาและเพดานด้านบนจะเป็นสีขาวตกแต่งลวดลายด้วยสีทอง  โดยพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็น สวนพุทธ ให้ศึกษาพุทธประวัติ โดยปั้นเป็นเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่ประสูติ ไปจนถึงเรื่องราวของ แดนนรก ไม่ว่าจะเป็นรูปเปรตอสูรกายขนาดสูงใหญ่ รูปปั้นแสดงบทลงโทษต่อผู้กระทำชั่ว เมื่อคนทำชั่วตกนรก มีข้อความเตือนสติให้ระลึกถึงการทำความดี และ เมืองสวรรค์ ที่จะแสดงภาพเทพเจ้าตามลัทธิศาสนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กำเนิดพระเยซู เจ้าแม่กวนอิม เทพแห่งศาสนาพราหมณ์หรือ 18 อรหันต์ และรูปปั้นองค์เทพต่างๆ มากมายเลย

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ เป็นวัดในไทยที่มีรายชื่อติดอันดับที่ 18 จากการจัดอันดับพิพิธภัณฑ์สุดแปลกจากทั่วโลก โดยเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง tripadvisor japan  นับว่าเป็น แลนด์มาร์คสายบุญใกล้กรุงเทพ ที่ห้ามาพลาดแล้วแหละแบบนี้ แต่อีกสิ่งที่เป็นไฮไลท์นึงของวัดนี้ ก็คือ พระมหาเจดีย์ ที่มีความสวยงามมากๆ นอกจากภายนอกที่ตกแต่งด้วย พญานาค แล้ว ภายในยังมีพระประธานสีทององค์ใหญ่ สวยเด่นเป็นสง่า ล้อมด้วยเสา 8 ต้นสีทองอร่าม เพดานสูงโล่งโปร่งสบายตา 

แลนด์มาร์คสายบุญ อีกหนึ่งสถานที่สำคัญในจังหวัดชลบุรีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง  เป็นวัดที่มีความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ และยังเป็นวัดที่มีประติมากรรมปูนปั้นที่สุดยอดแห่งศาสนาเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นมาเที่ยวแล้ว อย่าลืมแวะแลนด์มาร์คสายบุญ วัดแสนสุขชลบุรี ไหว้พระ ขอพรกันนะ 

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ทำบุญเสริมดวงที่ระยอง รวมวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ

เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย จุดชมวิว บรรยากาศดีใกล้กรุงเทพ

เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย

เรามารู้จัก สถานที่ท่องเที่ยวศรีราชา สถานที่แรกกัน นั่นก็คือ เกาะลอย นั่นเอง ถือว่าเป็น เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย ยอดนิยม ที่ห้ามพลาดเลยแหละ เกาะลอย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลชลบุรี สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่ คือ การมาชมพระอาทิตย์ และ เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย  จุดเช็คอิน แห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยที่สุดในจังหวัดเลย นอกจากนี้ใครที่อยากจะมาพักผ่อน หย่อนใจในช่วงวันหยุด ก็สามารถมาที่นี่ได้เช่นกัน เราขอการันตีว่าใครได้มาเที่ยวชลบุรีต้องแฮปปี้แน่นอน

เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย แวะถ่ายรูป เช็คอิน ชมวิวธรรมชาติและท้องทะเลแบบเต็มอิ่ม ฟินสุดๆไปเลย

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยววัดเกาะลอยกัน ไปดูกันว่าที่นี่จะมีจุดไหนที่น่าสนใจและน่าไปเดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย ต้องบอกก่อนเลยว่า เกาะลอย นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีขนาดเล็ก และมีสถานที่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ  แต่ก็มีสถานที่เที่ยวที่เหมาะใน การพักผ่อนหย่อนใจ และ เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย ชลบุรี อีกด้วย และพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่มีความสบายๆ ชิลล์ๆ  เพราะเกาะที่อยู่กลางทะเล ที่จะได้เห็นความสวยงามโดยที่รอบกันแบบเต็มๆเลย 

  • ที่จริงแล้วเกาะลอยศรีราชาเป็นจุดท่องเที่ยวของศรีราชา จังหวัดชลบุรี แต่เพราะศรีราชาเองอยู่ไม่ไกลจากพัทยามาก พัทยาจึงใส่เกาะลอยเอาไว้ในรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวด้วย (คงเผื่อต่างชาติมากกว่า) เกาะลอยศรีราชานั้นเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ กับฝั่ง จึงมีสะพานเชื่อมให้ไปเยี่ยมชมได้ แต่แม้ว่าจะเล็กก็มีคนมาเที่ยว มาเดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย ที่เที่ยวศรีราชา มากมาย เป็นสถานที่ที่แวะไปพักได้เสมอเลยล่ะ บนเกาะลอยเองก็ยังสามารถจอดรถได้ด้วย เกาะลอยศรีราชามีขนาดเพียง 3 ไร่ (อาจจะเป็นเกาะที่เล็กที่สุดในประเทศไทยก็ได้) และมีสะพานยาวประมาณ 500 เมตรเชื่อมมาจากฝั่งอำเภอศรีราชา ที่จริงในอดีตมีถนนเชื่อมต่อระหว่างเกาะลอยกับตัวอำเภอ แต่ถนนมันกันไม่ให้น้ำไหลผ่านไปได้และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดความสกปรกของน้ำในบริเวณนี้ จึงทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นสะพานเพื่อแก้ปัญหานี้ และแน่นอนว่ามันแก้ได้ดีอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน วัดเกาะลอยศรีมหาราชา เดิมมีชื่อเพียงสั้นๆ ว่า วัดเกาะลอย ซึ่งเราต้องขึ้นบันไดไป  70 ขั้น ก็จะเจอ วัดเกาะลอยศรีมหาราชา ตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ ใจกลางเกาะ ผู้คนส่วนมากนิยมมากราบไหว้ หลวงพ่อทันใจ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด และทำบุญถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์ หลังจากทำบุญจนอิ่มใจแล้ว ด้านนอกของวัดเป็นจุดชมวิวชั้นเลิศที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ เมืองศรีราชา และ เกาะสีชัง ท่ามกลางทะเลสุดกว้างใหญ่ของ อ่าวไทยอีกด้วย บอกเลยว่าต้องมาสัมผัสกับตาตัวเองให้ได้สักครั้งชีวิต
  • ที่จุดชมวิวบนเกาะลอยศรีราชา นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ เกาะ หากหันหน้าออกไปทางทะเลจะมีเกาะสีชังอยู่ทางนั้นและมีเมืองศรีราชาอยู่ทางด้านหลัง ช่วงเวลาเย็น ๆ จะมีคนเดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย จุดเช็คอิน มาออกกำลังกาย มานั่งตกปลา และพามาดูพระอาทิตย์ตกเสมอ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่ดีนั่นเอง นอกจากนี้ในเวลากลางคืน นักท่องเที่ยวก็ยังมาเยี่ยมชมเกาะลอยได้ โดยจะมีแสงไฟจากเมืองเป็นแบ็คกราว ก็ดูดีไปอีกแบบเช่นกันผู้คนที่มาที่เกาะลอย โดยเฉพาะคนพื้นที่ มักจะไปที่เกาะลอยเพื่อไหว้หลวงพ่อผิว อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีมหาราชาด้วย (ในวิหารจะมีรูปเหมือนของหลวงพ่อท่านอยู่ด้วย) นอกจากนี้ที่ยอดเนินบนเกาะยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เพื่อให้คนได้ไปทำการสักการะ อีกอย่างหนึ่งควรจะรู้ไว้ก็คือ ที่เกาะลอยแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับไปกลับเกาะสีชังอีกด้วย
เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอย
  • บริเวณรอบนอกของ เกาะลอย มีส่วนของร้านค้า ร้านอาหาร และสวนสาธารณะไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ โดดเด่นด้วย เก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยม ตามเสามีลวดลายปูนปั้นรูปมังกร เป็นที่ประดิษฐาน องค์เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว สูง 4 เมตร ให้ผู้คนที่เคารพบูชาสมารถเข้าไปกร้าบไหว้ได้ ในส่วนของการเดินทางนั้น หากเดินทางด้วยรถยนต์ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ตรงจากตัวเมืองชลบุรีมายัง อำเภอศรีราชา พอถึงตัวอำเภอ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางสู่ที่ว่าการอำเภอ ตรงไปจนสุดทางก็จะเจอ สะพานเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ที่ทอดยาวจากชายฝั่งไปสู่ เกาะลอย ศรีราชา

เดินเล่นนั่งชิลล์ ที่เกาะลอย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแค่เพียงเกาะเล็กๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน  และ เดินเล่นนั่งชิลล์ที่เกาะลอยชลบุรี แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างวัดเกาะลอยอีกด้วย 

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ทำบุญเสริมดวงที่ระยอง รวมวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ

ไหว้พญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู โลเคชั่นสวยๆ ใจกลางเมืองชลบุรี

ไหว้พญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู

หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูป ที่ชื่นชอบในการไปหาโลเคชั่นถ่ายรูปสวยๆ นั้น เราขอแนะนำเลยว่าคุณไม่ควรพลาดที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ต้องแวะมา ไหว้พญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู  ศาสนสถานอันงดงามไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและ ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย นอกจากเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวพุทธแล้ว ด้วยความที่โลเคชั่นที่ตั้งวัดนั้นอยู่บนยอดเขา จึงทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่งดงามมากๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ดูแปลกตามากมาย ที่สามารถมา ไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู ศรีราชา พร้อมกับมองเห็นเมืองศรีราชาได้แบบพาโนรามา 

ไหว้พญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู วัดสวยๆ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก  ต้องห้ามพลาด

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป นอกจากจะได้รูปภาพสวยๆ แล้วยัง ไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู ได้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้านบนวัดด้วย ใครมีเวลาในช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ ลองขับรถไปเที่ยวชมกันดูรับรองว่าสวยงาม ไม่ผิดหวังแน่นอน เป็นแหล่งท่องเที่ยว สำหรับถ่ายรูปวิวสวยๆ ของทะเลศรีราชา และบรรยากาศร่มรื่น ตั้งอยู่บนยอดเขา ใจกลางเมืองศรีราชา เราเชื่อว่า ยังคงมีหลายท่านที่ยังไม่เคยไป ไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู ชลบุรี เพราะแค่ขับรถผ่านไป ผ่านมาโดยไม่ได้สังเกตุเห็น เราขอรับประกันเลยว่าด้านในสวยงามงามมาก

  • สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก่อตั้งในสมัย พ.ศ.2479 โดย พระครูธรรมธรเที่ยง และมีกุฏิหลังแรก ซึ่งถวายโดยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชการที่ 5 พระครูท่านต่อมา คือ พระปริยัติวราทร และ พระอาจารย์อนนท์ สุนนฺโท ประธานสำนักสงฆ์ องค์ปัจจุบัน และ เป็นพระผู้พัฒนา สำนักสงฆ์ อยู่ในปัจจุบัน สำนักสงฆ์เขาพระครู เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แชะนอกเหนือจากวัดแล้ว ที่นี่ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สะอาด สงบ ร่มรื่น เป็นสถานที่ที่มีความสัปปายะเหมาะสำหรับ ไหว้พาญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู ขอพร และปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทางสำนักสงฆ์เขาพระครูได้จัดปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะบารมีถือศีล 8 ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ ทุก 2 สัปดาห์ และจัดปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญทั่วๆไป หรือโรงเรียน มหาวิทยาลัย บริษัทต่างจะส่งบุคคลากรของท่านเข้ารับการอบรมทางสำนักสงฆ์ก็ยินดีต้อนรับ
  • เมื่อเราเดินเข้าสู่บริเวณลานสำนักสงฆ์เขาพระครู เราจะพบกับองค์พระพุทธลีลานาคะบารมี  ที่ประดิษฐานอยู่บนลานปฏิบัติธรรมอยู่ลานด้านบนสุดและยังมีองค์พญานาคที่มีความพิเศษที่มีลูกแก้วอยู่ตรงกลางเป็นคริสตัลใส  และฉากหลังเป็นทะเลสีฟ้าครามสดใสกว้างไกล ถัดลงมาชั้น 2 จากลานด้านบนเป็นมุมนั่งพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์ บรรยากาศมุมสูง
ถ่ายรูปแบบพาโนราม่าได้สบายๆ และบริเวณรอบๆลานปฏิบัติธรรม มีจุดให้ประชาชนได้ทำบุญสังฆทาน กราบไหว้พระ และพักผ่อนมุมสวน ที่แสนสดชื่น เหมาะกับทุกคนเลยทีเดียว หรือใครหิวก็มีนำดื่มฟรี และขนมไว้คอยบริการอีกด้วย 
ไหว้พญานาคสำนักสงฆ์เขาพระครู
  • ไฮไลต์สำคัญ คือ องค์พญานาคขนาดใหญ่ ที่จะมีความพิเศษอยู่ที่ลูกแก้ว หรือเรียกอีกอย่างว่า มณีนาคราช โดยจะทำจากคริสตัลแท้ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางถึง 40 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมณีนาคราชนี้สามารถสะท้อนภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองศรีราชา ได้แบบกลับหัวอีกด้วย  เป็นการมองภาพวิวสวยๆ ในแบบมองมุมกลับกลับมุมมอง ที่แปลกไปจากเดิมอย่างมาก เหมาะมากๆ ในการไปเก็บภาพสวยๆ และบริเวณนี้สามารถมองเห็นวิว ตัวเมืองศรีราชา และ วิวทะเล เรือประมง และ เกาะลอยได้เลย เหมาะมากกับวิวถ่ายรูปมุมสูง ของเมืองศรีราชา ด้านบันไดทางขึ้น สถานปฏิบัติธรรม มีองค์พระอุปคุตปางจกบาตร สีขาวมุก งดงามตระการตา ไม่แพ้องค์พระพุทธลีลานาคะบารมี เช่นกัน  สำหรับการปฏิบัติธรรม นั้น ทาง สำนักสงฆ์เขาพระครู ก็เปิดรับกันตลอดทั้งปีเลย และมีตารางปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะบารมีถือศีล 8 ทุก 2 สัปดาห์ ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ และยังมีการจัดปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญอื่นๆ ทั่วไปอีกด้วย ใครที่สนใจมาปฏิบัติธรรมก็ติดต่อได้เลย สำหรับการเดินทางไป ไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู ศรีราชา ก็ง่ายนิดเดียว สำนักสงฆ์เขาพระครู จะอยู่ใจกลางเมืองศรีราชาเลย ถ้าขับรถมาจากถนนสุขุมวิท เมื่อถึงเเยกที่ เลยตึกคอมศรีราชา ไปประมาณ 200 เมตร ก่อนถึงปั้มน้ำมันบางจาก ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป ตรงนี้จะเจอกับทางขึ้นไปสำนักสงฆ์ฯ ทางขึ้นจะมีความชันเล็กน้อย  พอขึ้นถึงยอดเขาก็จะเจอลานจอดรถสามารถจอดตรงนี้ได้เลย

ไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู เป็นศาสนสถานอันงดงามไม่ไกลจากกรุงเทพฯ  อีกทั้งยังมีจุดชมวิวสวยๆ เมืองศรีราชาให้ได้ชมอีกด้วย ใครมาที่เที่ยวชลบุรีแล้ว อย่าลืมแวะไหว้พญานาค สำนักสงฆ์เขาพระครู ขอพร เพิ่มความสิริมงคลกันด้วยนะ 

40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย

ทำบุญเสริมดวงที่ระยอง รวมวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ