เที่ยวเกาะสีชัง พลอยเม็ดงาม…แห่งน่านน้ำบูรพา

        เมื่อพรรคพวกโทรมาชวนไปเที่ยวเกาะสีชังเกาะที่ได้ชื่อว่า “พลอยเม็ดงาม…แห่งน่านน้ำบูรพา” 1 ใน 20 เกาะสวยแห่งทะเลอ่าวไทย เกาะสีชังนับเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปี ธรรมชาติความงดงามที่เกาะนี้แตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นใด บรรยากาศสงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม นอกจากนี้เกาะสีชังยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเกาะที่พระมหากษัตริย์เสร็จไปประทับอยู่ถึง 3 พระองค์นับตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ระยะเวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงนิด ๆ ถ้ารถไม่ติดนักจากกรุงเทพมหานคร มุ่งตะวันออกสู่จังหวัดชลบุรี เลยตัวจังหวัดไปสักยี่สิบนาทีก็ถึงอำเภอศรีราชา สถานที่ที่มีท่าเทียบเรือโดยสารบริการนักท่องเที่ยวที่จะไปเกาะสีชัง ตามกันมานะ เราจะพาไปค้างที่เกาะสีชังกันสักคืน

ไปขึ้นเรือเที่ยวเกาะสีชังกัน

          ก่อนอื่นต้องวางแผนการเดินทางไปเที่ยวเกาะสีชังกันก่อน ถ้าท่านนำรถยนต์ส่วนตัวมา แนะนำให้ท่านมุ่งตรงไปที่ท่าเรือเกาะลอยเลย เราจะไปขึ้นเรือที่นั่น บริเวณรอบๆ ท่าเรือเกาะลอยจะมีพื้นที่ให้จอดรถค้างคืนทิ้งไว้ได้ แต่ถ้าท่านเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางมาถึงที่ศรีราชาแล้ว แนะนำให้ลงที่ห้างโรบินสันแล้วนั่งรถตุ๊ก ๆ ไปที่ท่าเรือเกาะลอย เรือโดยสารจะเป็นเรือใหญ่ 2 ชั้น ออกเที่ยวแรกตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 2 ทุ่ม ค่ำมืดอย่างไรท่านก็ยังสามารถเดินทางไปเกาะสีชังได้ เรือจะออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าบริการ 50 บาท ส่วนเที่ยวขากลับจากเกาะสีชังจะมีเรือออกเที่ยวแรกตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 1 ทุ่ม แต่ทริปนี้เราจะชวนเที่ยวเกาะสีชังแบบค้างคืน พาไปรู้จักที่เที่ยวให้ทั่วและพาไปรู้จักที่พักบรรยากาศสุดฟินมองเห็นวิวทะเลจากบนเตียงเชียวนะ

เที่ยวสักวัน…พอสดชื่น

          จะเที่ยวเกาะสีชังสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรทราบก่อนอื่นเลยคือ…สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังนั้นอยู่ไกลกันพอควร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวมักจะเช่ามอเตอร์ไซต์หรือสามล้อเครื่องสกายแลปเป็นพาหนะในการเดินทาง ค่าเช่าก็ไม่แพงนักวันละ 250 บาท

          ที่แรกที่จะพาไปในทริปนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง นั่นคือ พระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ประกอบด้วยสะพานอัษฎางค์ เรือนไม้สีขาวสวยงาม ทอดตัวออกไปในทะเล จุด Landmark สำคัญที่ต้องไม่พลาด เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขึ้นเทียบเรือ ถัดไปเป็นเรือนไม้ริมน้ำหรือเรือนเขียว เป็นที่ประทับแรมในสมัยรัชกาลที่ 4 สภาพปัจจุบันสมบูรณ์และได้จัดตกแต่งเป็นร้านกาแฟบริการนักท่องเที่ยว ถัดไปเป็นเรือนผ่องศรีสำหรับจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชัง ถัดไปเป็นเรือนวัฒนาใช้จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังสมัยรัชกาลที่ 5 ถัดไปเป็นเรือนอภิรมย์ เป็นเรือนที่ใช้เป็นที่พักอาศัย สำหรับผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาตัวที่เกาะสีชัง บางที่ก็เรียกกันว่า อาไศรยสถาน นอกจากนี้ในเขตพระราชวังยังมีวัดอัษฎางค์นิมิตร เป็นพระอุโบสถที่อยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ตั้งอยู่บนเขา สามารถมองลงมาเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานโดยรอบ และใกล้กับวัดอัษฎางค์นิมิตรจะมีระฆังหินและเจดีย์เก่าแก่ตั้งอยู่ก่อนถึงวัดนิดเดียว ถ้าลองเอาก้อนหินเล็ก ๆ มาเคาะที่กองหินใหญ่ดูจะมีเสียงใสกังวาลเหมือนระฆัง

          สถานที่เที่ยวต่อไปคือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ตั้งอยู่บนเขาทางด้านเหนือของเกาะใกล้กับท่าเรือ ต้องเดินขึ้นบันไดไปพอเหนื่อย เป็นถ้ำที่ดัดแปลงเป็นศาสนสถานลักษณะผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนและไทย ถ้าเดินเลยขึ้นไปอีกหน่อยก็เป็น มณฑปรอยพระพุทธบาท รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ โดยรอบตรงนี้เป็นจุดชมวิวชุมชนบนเกาะที่จัดว่าสวย

          เลยข้ามฝั่งไปด้านทิศตะวันตก…ถัดไปคือ ช่องเขาขาด อยู่บริเวณด้านหลังของเกาะ ถ้านั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ปลายเกาะจะเป็นแหลมมหาวชิราวุธ คล้ายกับแหลมพรมเทพที่ภูเก็ตแต่เล็กกว่า มีสะพานที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลมให้เดินชมวิวชมพระอาทิตย์ตก มีชายหาดหินกลมซึ่งมากมายไปด้วยก้อนหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ ตรงนี้เองเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 จุดนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก

          สถานที่เที่ยวถัดไปคือ หาดถ้ำพัง ชายหาดกว้างสะอาดสวยงาม ทรายละเอียด น้ำใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ มีเตียงผ้าใบ มีที่นั่งพักผ่อนและร้านอาหารทะเลริมหาดหลายร้าน ทางลงไปหาดค่อนข้างชันนักท่องเที่ยวที่ขับขี่มอเตอร์ไซด์ก็ระมัดระวังกันสักนิด

          สถานที่เที่ยวแห่งสุดท้ายสำหรับทริปเที่ยวเกาะสีชังแบบค้างคืนทริปนี้ จบลงที่แหลมจักรพงษ์ เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่ง บนเส้นทางท่องเที่ยวเดียวกับหาดถ้ำพัง ริมฝั่งทะเลเป็นโขดหินขนาดใหญ่สวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง มีจุดพักที่นักท่องเที่ยวปลูกเป็นกระโจมเล็ก ๆ สวยงาม แลดูลงตัวเข้า บรรยากาศยิ่งนัก

ค้างสักคืน…พอรื่นรมย์

          เริ่มเหนื่อยกันแล้วละซิเที่ยวเกาะสีชังทริปนี้ ก่อนกลับเข้าที่พัก อาทิตย์ตกยามเย็นเช่นนี้…เขาว่ากันว่าให้ไปอธิษฐานขอพรที่กลางช่องเขาขาด บรรยากาศสวยงาม โรแมนติก วิ้งๆ นักท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับมักจะไม่ค่อยได้พบได้เห็น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ปักหลักค้างคืนนั้น บรรยากาศอย่างนี้กับเพื่อนที่รู้ใจ อะไรจะพีคเท่ากับการได้ล้อมวงริมระเบียงห้องพัก สังสรรค์สรวลเสเฮฮากัน เฝ้ามองพระอาทิตย์ตกทะเลจนลับตา และ…ห้องพักที่มีบรรยากาศฟินเช่นนี้ก็จะมีไม่กี่แห่ง ที่นำมาให้เลือกในทริปนี้…รับรอง นอนมองพระอาทิตย์ตกได้จากที่นอนเลยเชียวแหละ

ที่แรกที่เหมาะกับทริปเที่ยวเกาะสีชังแบบค้างคืน นั่นคือ…โรงแรมซัมแวร์ บูทีกโฮเทลที่ออกแบบให้ดูสดใสล้อกลิ่นอายของทะเลแคริเบียน บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับพักผ่อน อาคารที่พักสองชั้นสีขาว ห้องพักตกแต่งบรรยากาศทะเลฟ้าขาว มีห้องพักสำหรับครอบครัวด้วยนะ และยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดเล็กที่จะทำให้นักท่องเที่ยวฟินจนลืมวันลืมคืนเลย

และที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ จะเป็นที่อื่นใดไม่ได้นอกจาก ปารีฮัท รีสอร์ท ที่พักสไตล์ทรอปิคอล ตั้งอยู่บนหินผาริมทะเลให้อารมณ์แบบบอร์เนียว ห่างจากที่พักอื่นพอสมควร นักท่องเที่ยวที่ต้องการหนีความวุ่นวายเสาะหาความสงบสุด ๆ คำตอบอยู่ที่นี่แหละ ห้องพักแบบกระท่อมที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งทั้งวันทั้งคืน สระว่ายน้ำที่เพลิดเพลินกับวิวพระอาทิตย์ตกหน้าที่พักแบบฟิน ๆ