สะพานชลมารควิถี แลนด์มาร์คขึ้นชื่อของจังหวัดชลบุรี อากาศดี มุมถ่ายรูปปัง

ไหนใครเคยผ่านไปทาง ชลบุรี แล้วขับรถชมวิวสะพานสวยๆ อย่าง สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา กันบ้าง ถ้ายังไม่เคย บอกเลยว่าพลาดแล้ว เพราะว่า แวะพักใจที่ สะพานชลมารควิถี วิวปัง แบบที่มองอยู่ในรถก็ฟินแล้ว ที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวได้เป็นทั้งที่สัญจรและยังเป็นที่เที่ยวได้อีกด้วย บรรยากาศที่มีความเลียบไปกับทะเล จึงทำให้ แวะพักใจที่สะพานชลมารควิถี กลางคืน มีบรรยากาศดี และเหมาะสำหรับใครที่อยากไปชิลๆ และพักผ่อนรับลม ก่อนที่ออกเดินทางกันต่อ อย่ารอช้า รีบตามเรามาเที่ยวกันได้เลย

สะพานชลมารควิถี บรรยากาศดี เดินทางสะดวก ไกล้เมืองกรุง 

ใครที่เคยมาเที่ยวชลบุรีคงจะคุ้นตากันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นสะพานเลียบชายทะเล ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อแบ่งเบาปัญหาการจราจรต่างๆ บนถนนสุขุมวิทของชลบุรีนั่นเอง และยังถือว่าเป็นถนนที่มีความสวยงดงาม สามารถมองวิวสวยๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย เลยทำให้ แวะพักใจที่สะพานชลมารควิถี กลายมาเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของชลบุรี อีกแห่งหนึ่งเลย โดย  แวะพักใจที่สะพานชลมารควิถี บางแสน ของเรามีอีกชื่อเรียกอีกหนึ่งว่า สะพานเลียบชายทะเลชลบุรี นั่นเอง

• มีการเปิดให้สัญจรอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2559เป็นสะพานเลียบชายฝั่งทะเลชลบุรี ระยะทางรวม 17 กม.  แต่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) เมื่อปี 2556 ให้ก่อสร้างได้ 7 กม. ถูกออกแบบก่อสร้างมีทั้งงานถนนและสะพาน ขนาด 4 ช่องจราจร แบ่งสร้าง 5 ช่วง ปัจจุบันสร้างเสร็จเปิดใช้แล้ว ที่สะพานชลมารควิถี ถ่ายรูป สวยๆได้หลายมุมเลย ตัวสะพานอยู่ในตัวเมือง ไม่ไกลจากชายหาดบางแสนและเขาสามมุกมากเท่าไหร ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ก็ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น  มีการออกแบบก่อสร้างถนน และสะพานขนาด 4 ช่องจราจรด้วยกัน ที่จะขนานไปตามแนวชายหาดเลย  แน่นอนว่าอยู่ขนานชายหาดแบบนี้ ตรงนี้ก็เลยสามารถมองเห็นวิวของทะเลสวยๆ ได้ ซึ่งในช่วงที่น้ำทะเลลด จะมองเห็นริ้วทรายสลับกับน้ำทะเลไป และเห็นกระชังปลาอยู่กลางทะเลเรียงรายแบบสวยงามเลย

• นอกจากนี้ยังมีการพบว่ามีตะกอนดิน และสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ถือว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมทั้งด้านการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมๆ กันเลย  บรรยากาศของที่นี่ ด้วยพื้นที่เป็นถนน จึงทำให้มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง และยังเต็มไปด้วยวิวทะเลที่จะได้รับลมชมวิวกันแบบเต็มๆอีกด้วย และ แวะพักใจที่สะพานชลมารควิถี  บางแสน ของเรานั้น ยังสามารถเป็นที่พักผ่อน หย่อนใจ ในการชมวิวในช่วงเย็นได้อีกด้วย ในตอนเย็นทุกคนก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินแบบไม่มีอะไรมาบังวิวได้แบบฟินๆ ไปเลย และบนสะพานยังมีร้านขายของ เครื่องดื่ม อาหาร ที่เป็นลักษณะของ Food truck ที่สามารถซื้อทาน นั่งชิล ชมวิวกันได้อีกด้วย และยังสามารถถ่ายภาพกับวิว หรือจะเป็นการมาทำกิจกรรมก็ยังสามารถมาได้อีกด้วย และยังเป็นที่นิยมในการมาแวะท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางผ่านมาที่สะพานนี้กันด้วย โดยที่แห่งนี้นั้นเมื่อถึงช่วงที่น้ำลด จะเห็นพื้นทรายที่โล่ง ที่จะได้เห็นวิวหรือพื้นทรายด้านล่าง จะได้อีกบรรยากาศหนึ่งเลย

• สำหรับใครที่อยากได้รูปอัพโซเชียลฟีลเหมือนอยู่เกาหลี เราแนะนำว่าไปช่วงเย็นๆ แสงแดดไม้จ้าเกิน อีกทั้ง แวะพักใจที่สะพานชลมารควิถี กลางคืน จะมีร้านค้าที่เป็นรถซาเล้ง ได้มาขายตามข้างทาง ทำให้คนที่เดินทางมาเที่ยวชมวิวในตอนกลางคืน สามารถเดินชิลๆ หาซื้อของทานเล่นกันได้อีกด้วย  ใครที่มีรถส่วนตัวสามารถขับขึ้นไปได้เลยเพราะบนสะพานมีจุดจอดรถให้ การได้แวะเวียนมาเดินเล่นชมวิวและดูพระอาทิตย์ตก บอกเลยว่าเป็นบรรยากาศที่ฟินมากๆหรือ ใครที่อยากขับรถเล่นชมวิวสวยๆ ของพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้า แนะนำว่าห้ามพลาด ต้องแวะมาที่นี่เลย ถือว่าเป็นการเที่ยวแบบธรรมดาๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพ ถ้าใครได้มาสัมผัสบรรยากาศที่นี่สักครั้งด้วยตัวเอง บอกเลยว่าต้องชอบแน่ๆ งานนี้ ใครอยากชิล ก็ตามเรามา  เพราะนอกจากจะเห็นวิวของทะเลที่สุดลูกหูตาโดยไม่มีอะไรมาบังแล้ว บรรยากาศค่อนข้างสงบ อากาศถ่ายเทมีลมเย็นสบายๆ ได้รับความฟินกลับไปแน่นอน ในส่วนของการเดินทางก็ง่ายนิดเดียว  จากกรุงเทพให้ไปตามถนนสุขุมวิทเพื่อจะเข้าตัวเมืองพอถึงวัดเขาบางทราย ขวามือจะมีซอยบางทราย 83เข้าซอยไปก็จะไปเริ่มต้นหัวสะพานฯ วิ่งไปได้จนสุดแถว ๆ สนามกีฬา ทางจะเชื่อมต่อกับหัวถนนพระยาสัจจา จะตัดขึ้นสุขุมวิท หรือตรงไปจนสุดเพื่อไปอ่างศิลาก็แล้วแต่สะดวกเลย

อ่านบทความอื่น ๆ >> สถานที่ขอพรเมืองพัทยา รับปีกระต่ายทอง  สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยมเมืองพัทยา

.สนับสนุนโดย : sagame SA-Game คาสิโนออนไลน์ พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !