ว่ากันว่าการได้นั่งดูธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา ป่าไม้ หรือธรรมชาติต่างๆ จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย วันนี้เรามีหนึ่งสถานที่เด็ดห้ามพลาดมาแนะนำแก่ทุกท่าน เป็น จุดชมวิวบางแสน เหมือนอยู่เกาหลี นั่นก็คือ จุดชมวิวเขาสามมุขนั่นเอง ซึ่งสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดชลบุรี เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านอ่างศิลา และหาดบางแสน เชิงเขาเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป บริเวณเขาสามมุขมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากขับรถไปขึ้นไปบนเขาจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลบางแสนได้สวยงาม นับว่าเป็น จุดชมวิวบางแสนเหมือนอยู่เกาหลี ติดทะเล ที่ไปแล้วให้ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศสุดๆ
จุดชมวิวบางแสน เหมือนอยู่เกาหลี บรรยากาศดี ถ่ายรูปมุมไหนก็ปัง ใกล้ๆกรุงเทพ
จุดชมวิวเขาสามมุข มีจุดเริ่มต้นบริเวณ โรงแรมสามมุขรีสอร์ท ระดับเดียวกับน้ำทะเล ยาวไปถึงร้านอาหารทะเลบริเวณศาลเจ้าแม่สามมุขจีน (ผ่านศาลเจ้าแม่สามมุขไทย)เป็น จุดชมวิวบางแสนเหมือนอยู่เกาหลี ที่ระยะทางรวม 0.54 กิโลเมตร ดูเหมือนจะสั้น ๆ แต่ถ้าเดินแบบไม่พักก็เหนื่อยเอาเรื่อง เพราะไม่ใช่แค่ต้องเดินขึ้นเนิน แต่ยังต้องยกขาก้าวขึ้นบันไดอีก เมื่อเดินขึ้นไป พื้นที่จะแคบลงเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด เป็นช่วงเดินลอดอุโมงค์ตัวอักษร “Bangsaen Kaosammuk” ตรงปลายอุโมงค์เชื่อมด้วยลานกว้าง มีที่ให้นั่งพัก ยืดเส้นยืดสาย ก่อนเริ่มเดินลงเขาผ่านทางที่แคบคล้ายกับช่วงขาขึ้น เดินลงเขามาสักพัก จะเจอลานกว้างอีกหนึ่งจุด มีรั้วรอบปลอดภัย สำหรับยืนรับลมชมวิวทะเล ยิ่งถ้ามา จุดชมวิวบางแสนเหมือนอยู่เกาหลี ตอนกลางคืน หรือในตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ยิ่งสวยงามจับใจ
- จุดชมวิวแห่งใหม่นี้ นอกจากดีไซน์ที่เก๋มาก ๆ แล้ว ยังเป็น จุดชมวิวบางแสนเหมือนอยู่เกาหลี ติดทะเล แถมยังเอื้อประโยชน์ให้ใช้สอยทั้งการพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย แถมมีทางพิเศษสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ตลอดเส้นทาง และอย่างที่ทุกคนก็ทราบกันว่า หลายๆสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนั้นก็ย่อมมีตำนานเล่าขานกันมา วันนี้มาเขาสามมุขทั้งที เราก็มีตำนานจะมาบอกเล่าให้ทุกท่านได้ทราบที่มาที่ไป ทำไมถึงชื่อเขาสามมุข ในอดีตมีชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่า แสน ถูกพ่อบังคับให้แต่งงาน กับ มะลิ หญิงสาวที่มีฐานะดี แต่นายแสนกลับตกหลุมรักกับ มุข และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักกันไม่มีวันเสื่อมคลาย หากไม่สมหวังได้ครองคู่กัน ก็จะพากันมากระโดดน้ำจบชีวิตที่หน้าผาแห่งนี้ เมื่อพ่อของแสนทราบก็กีดกันด้วยความรังเกียจในฐานะอันต่ำต้อยของมุข และรีบจัดงานแต่งงานกับมะลิให้ โดยที่แสนไม่ได้มีโอกาสบอกความจริงกับมุขเลย ทำให้มุขเสียใจและตัดสินใจกระโดดลงหน้าผา แสนที่เสียใจต่อการจากไปของคนรัก จึงกระโดดตามลงไปตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ กลายเป็นที่มาของชื่อ เขาสามมุข ที่ตั้งเป็นอนุสรณ์ให้กับทั้งคู่นั่นเอง แค่ฟังตำนานก็ชวนขนลุกกันแล้ว ไปต่อกันเลยดีกว่า
- ที่นี่มีจุดสำคัญบนเขาด้วยกัน 2 จุด ที่แรกคือ ศาลเจ้าแม่สามมุข มีลักษณะเป็นศาลเจ้าแบบจีน อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่เคารพนับถือของชาวชลบุรี รวมถึงคนทั่วไป มาถึงแล้วจะเห็นได้เลยว่าสถาปัตยกรรมต่างๆ นั้นถูกประดับประดาอย่างสวยงามอลังการมากๆ ส่วนด้านในเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่ทับทิม หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า เทียงโหวเซี่ยบ้อ หรือหม่าโจ้ว ซึ่งคนจะนิยมมาขอพรในเรื่องของความรักกันเป็นส่วนใหญ่
- มาที่หนึ่งไฮไลท์เด็ด นั่นก็คือ จุดชมวิวสามมุขโฉมใหม่ที่ดูสวยงามทันสมัย จนหลายคนมาถึงแล้วต้องขอถ่ายรูปเช็คอินเก็บไว้เป็นที่ระลึก บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย โดดเด่นตั้งแต่เส้นทางเดินที่เป็นอุโมงค์ตัวหนังสือสีขาว ทอดยาวมายังระเบียงชมวิว ตลอดแนวเราจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลบางแสน แหลมแท่น และอ่างศิลา ได้อย่างชัดเจน หากวันไหนท้องฟ้าปลอดโปร่ง สภาพอากาศดี ก็จะมองเห็นเกาะสีชัง และตัวเมืองศรีราชาได้ด้วย บริเวณนี้จะมีซุ้มจัดไว้ให้นั่งพักตากลมชมวิวกันได้เพลินๆ ถ้าใครรีบไปไหนแล้วละก็รอดูพระอาทิตย์ตกตดินกันก่อน บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสมาเที่ยวบางแสน หรือชลบุรี ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยว จุดชมวิวบางแสนเหมือนอยู่เกาหลี ตอนกลางคืน ของเรากันนะ และแวะกราบสักการะศาลเจ้าแม่สามมุขกันได้ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ให้เลือกทานมากมาย แต่ที่สำคัญอย่าลืมระมัดระวังเก็บสิ่งของต่างๆ ให้เรียบร้อย เพราะถ้าเผลอเมื่อไหร่อาจจะโดนเจ้าลิงทั้งหลายฉกฉวยไปแน่ๆ
40 ที่เที่ยวชลบุรีอัพเดทใหม่ปี 2023 ปักหมุดแล้วไปเที่ยวกันเลย